สูตรข้าวเหนียวมะม่วง
วัตถุดิบ
- ข้าวเหนียว 350 กรัม
- กะทิ 1 กระป๋อง
- น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
- เกลือ 1+1/4 ช้อนชา
- แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา
- ใบเตย 4-5 ใบ
วิธีทำ
- เตรียมข้าวเหนียว: ล้างข้าวเหนียวให้สะอาดแล้วแช่น้ำประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นนึ่งข้าวเหนียวในลังถึงจนสุกและนุ่ม
- ทำกะทิ: ผสมกะทิ น้ำตาลทราย เกลือ และแป้งข้าวเจ้าเข้าด้วยกัน นำไปตั้งไฟอ่อนจนส่วนผสมละลายและข้นขึ้น
- ผสมข้าวเหนียวและกะทิ: นำข้าวเหนียวที่นึ่งเสร็จแล้วมาผสมกับกะทิที่ทำไว้ให้เข้ากัน ปล่อยให้เย็นและเสิร์ฟพร้อมมะม่วงหั่นชิ้น
เคล็ดลับ
- ใช้ข้าวเหนียวพันธุ์ดีจะทำให้ข้าวเหนียวมะม่วงของคุณมีรสชาติที่ดีที่สุด
- เลือกมะม่วงที่สุกพอดีไม่หวานเกินไป เพื่อให้เข้ากันได้ดี
สูตรขนมถ้วยโบราณ
วัตถุดิบ
- แป้งข้าวจ้าว 80 กรัม
- แป้งมันหรือแป้งท้าวยายม่อม 15 กรัม
- น้ำตาลโตนด 120 กรัม
- หางกะทิ 400 มิลลิลิตร
- ใบเตย 4 ใบ
- หัวกะทิ 400 มิลลิลิตร
- แป้งข้าวจ้าว 30 กรัม
- น้ำตาลทราย 30 กรัม
- เกลือ 5 กรัม
วิธีทำ
- ทำตัวแป้ง: ผสมแป้งข้าวจ้าว แป้งมัน และน้ำตาลโตนดเข้าด้วยกัน เติมหางกะทิและใบเตยสับละเอียดลงไป คนให้เข้ากัน
- ทำหน้ากะทิ: ผสมหัวกะทิ แป้งข้าวจ้าว น้ำตาลทราย และเกลือเข้าด้วยกัน ต้มจนข้น
- ประกอบขนม: เทส่วนผสมตัวแป้งลงในถ้วยและ蒸สุก จากนั้นเทส่วนผสมหน้ากะทิลงไป 蒸ต่อจนสุก
เคล็ดลับ
- ควรใช้ใบเตยสดเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมให้กับขนมถ้วยโบราณ
- การ蒸ด้วยไฟอ่อนจะทำให้ขนมสุกทั่วถึงและเนื้อไม่แข็ง
สูตรขนมตะลุ่ม ขนมถ้วยหน้าสังขยาใบเตย
วัตถุดิบ
- แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม
- แป้งข้าวเหนียว 1 ช้อนชา
- แป้งท้าว 20 กรัม
- น้ำตาลมะพร้าว 100 กรัม
- น้ำใบเตย 250 มิลลิลิตร
- กะทิ 370 มิลลิลิตร
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- ไข่เป็ด 2 ฟอง
- หัวกะทิ 130 มิลลิลิตร
- น้ำตาลมะพร้าว 150 กรัม
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
- ทำตัวแป้ง: ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว แป้งท้าว และน้ำตาลมะพร้าว เติมน้ำใบเตยและกะทิ คนให้เข้ากัน
- ทำหน้าสังขยา: ผสมไข่ไก่ ไข่เป็ด หัวกะทิ น้ำตาลมะพร้าว และเกลือเข้าด้วยกัน
- ประกอบขนม: เทส่วนผสมตัวแป้งลงในถ้วย 蒸จนสุก จากนั้นเทส่วนผสมหน้าสังขยาใบเตยลงไป 蒸ต่อจนสุก
เคล็ดลับ
- การใช้ไข่ไก่และไข่เป็ดผสมกันจะทำให้หน้าสังขยาเนียนนุ่ม
- ควรใช้กะทิสดเพื่อเพิ่มความหอมและรสชาติ
สูตรข้าวเหนียวเปียกลำใยมะพร้าวอ่อน
วัตถุดิบ
- ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 200 กรัม
- น้ำมะพร้าว 700-1000 มิลลิลิตร
- ใบเตยหอม 5-6 ใบ
- น้ำตาลทราย 250 กรัม
- เนื้อมะพร้าวอ่อน ตามชอบ
- เนื้อลำไย 400 กรัม
- หัวกะทิ 400 กรัม
- แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
- เตรียมข้าวเหนียว: แช่ข้าวเหนียวในน้ำให้พอสมควร จากนั้นนึ่งจนสุก
- ทำส่วนผสมเปียก: ต้มน้ำมะพร้าวกับใบเตยให้มีกลิ่นหอม เติมน้ำตาลทรายและเนื้อมะพร้าวอ่อน
- ผสมข้าวเหนียวและน้ำมะพร้าว: นำข้าวเหนียวที่นึ่งแล้วมาผสมกับน้ำมะพร้าวที่เตรียมไว้ ราดด้วยหัวกะทิ
เคล็ดลับ
- ใช้น้ำมะพร้าวสดเพื่อเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอม
- เนื้อมะพร้าวและลำไยเพิ่มความกรุบกรอบและรสชาติหวาน
สูตรขนมบ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน
วัตถุดิบ
- แป้งข้าวเหนียวขาว 315 กรัม
- แป้งข้าวเหนียวดำ 60 กรัม
- น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี 220 กรัม
- เกลือป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- น้ำเปล่า 200 มิลลิลิตร
- หัวกะทิ 250 มิลลิลิตร
- ผงฟู 1/2 + 1/4 ช้อนชา
- มะพร้าวขูดขาว 375 กรัม
- เนื้อมะพร้าวอ่อน 375 กรัม
วิธีทำ
- เตรียมแป้ง: ผสมแป้งข้าวเหนียวขาวและดำเข้าด้วยกัน เติมน้ำตาลทราย เกลือ ไข่ไก่ และน้ำเปล่า คนให้เข้ากัน
- ทำเนื้อขนม: เติมหัวกะทิและผงฟูลงไป ผสมให้เข้ากัน
- อบขนม: เทส่วนผสมลงในถาดที่ทาน้ำมันบาง ๆ อบในเตาอบที่อุณหภูมิ 180°C ประมาณ 25-30 นาที
เคล็ดลับ
- การใช้แป้งข้าวเหนียวหลายชนิดทำให้ขนมมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่หลากหลาย
- ตรวจสอบขนมให้ดีว่าอบจนสุกทั่วถึง
สูตรสาคูต้นข้าวโพดมะพร้าวอ่อน
วัตถุดิบ
- ข้าวโพด 250 กรัม
- เนื้อมะพร้าว ตามชอบ
- ใบเตย 3 ใบ
- สาคูต้น 250 กรัม
- น้ำตาลทราย 200 กรัม
- กะทิ 500 มิลลิลิตร
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
- เตรียมสาคู: แช่สาคูในน้ำสะอาดให้เปื่อย นำไปต้มให้สุก
- ทำสาคูข้าวโพด: ต้มข้าวโพดและเนื้อมะพร้าวในกะทิพร้อมกับน้ำตาลทรายและเกลือ
- ผสมส่วนผสม: นำสาคูที่ต้มเสร็จแล้วมาผสมกับส่วนผสมที่ต้มไว้
เคล็ดลับ
- ใช้ข้าวโพดสดเพื่อเพิ่มความหวานและกรุบกรอบ
- กะทิสดจะทำให้ขนมมีรสชาติและกลิ่นที่ดีกว่า
สูตรข้าวเหนียวเปียกลำใยมะพร้าวอ่อน
วัตถุดิบ
- ข้าวเหนียว 250 กรัม
- ลำไย 200 กรัม
- มะพร้าวอ่อน 200 กรัม
- น้ำมะพร้าว 500 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 200 กรัม
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- หัวกะทิ 300 มิลลิลิตร
วิธีทำ
- เตรียมข้าวเหนียว: แช่ข้าวเหนียวและนึ่งให้สุก
- ทำตัวเปียก: ต้มน้ำมะพร้าวกับน้ำตาลทรายให้ละลาย จากนั้นเติมลำไยและมะพร้าวอ่อน
- ผสมข้าวเหนียว: ใส่ข้าวเหนียวที่นึ่งลงไปในส่วนผสมที่เตรียมไว้ ราดด้วยหัวกะทิ
เคล็ดลับ
- การใช้น้ำมะพร้าวสดจะทำให้ขนมมีรสชาติหวานอร่อย
- ใช้เนื้อมะพร้าวอ่อนจะเพิ่มความกรอบ
สูตรวุ้นใบเตยสาคูกะทิมะพร้าวอ่อน
วัตถุดิบ
- ใบเตย 5 ใบ
- น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร
- แป้งวุ้น 20 กรัม
- น้ำตาลทราย 150 กรัม
- กะทิ 300 มิลลิลิตร
- เนื้อมะพร้าวอ่อน 150 กรัม
- สาคู 100 กรัม
วิธีทำ
- ทำวุ้นใบเตย: ต้มน้ำใบเตยกับน้ำตาลทรายให้ละลาย เติมแป้งวุ้นคนให้เข้ากัน
- ทำสาคู: ต้มสาคูให้สุกแล้วพักไว้
- ประกอบขนม: เทวุ้นลงในถาดและรอจนตั้งตัว จากนั้นเติมเนื้อมะพร้าวอ่อนและสาคูลงไป
เคล็ดลับ
- วุ้นที่ทำได้จะมีความเหนียวนุ่มและกลิ่นหอม
- ใช้ใบเตยสดเพื่อเพิ่มความหอมให้กับวุ้น
สูตรครองแครงอัญชัน กะทิสดมะพร้าวอ่อน
วัตถุดิบ
- แป้งข้าวเจ้า 200 กรัม
- น้ำดอกอัญชัน 100 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 150 กรัม
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- หัวกะทิ 200 มิลลิลิตร
- เนื้อมะพร้าวอ่อน 100 กรัม
วิธีทำ
- เตรียมแป้ง: ผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำดอกอัญชัน น้ำตาล และเกลือให้เข้ากัน
- ทำครองแครง: ต้มน้ำให้เดือดแล้วเทส่วนผสมลงไปทำเป็นครองแครง
- เสิร์ฟ: ตักครองแครงใส่ถ้วย ราดด้วยหัวกะทิและเนื้อมะพร้าวอ่อน
เคล็ดลับ
- ใช้น้ำดอกอัญชันสดเพื่อให้สีและกลิ่นหอม
- หัวกะทิสดจะทำให้รสชาติของขนมอร่อยยิ่งขึ้น
สูตรขนมหยกมณี (สาคูใบเตยนึ่งมะพร้าวขูด)
วัตถุดิบ
- สาคู 200 กรัม
- ใบเตย 4 ใบ
- น้ำตาลทราย 200 กรัม
- น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร
- มะพร้าวขูด 150 กรัม
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
- เตรียมสาคู: แช่สาคูในน้ำให้เปื่อย แล้วนึ่งจนสุก
- ทำส่วนผสมใบเตย: ต้มใบเตยในน้ำเปล่าให้มีกลิ่นหอม เติมน้ำตาลทรายและเกลือ
- ประกอบขนม: ผสมสาคูกับส่วนผสมใบเตยแล้วนึ่งต่อให้สุก
เคล็ดลับ
- ใช้ใบเตยสดเพื่อเพิ่มความหอมให้กับขนม
- มะพร้าวขูดจะทำให้ขนมมีความกรุบกรอบและรสชาติที่ดี
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
1. สามารถปรับส่วนผสมในสูตรขนมได้ไหม?
ใช่ คุณสามารถปรับส่วนผสมในสูตรขนมได้ตามความชอบของคุณ หากต้องการลดความหวาน สามารถลดปริมาณน้ำตาล หรือหากชอบกะทิข้นสามารถเพิ่มปริมาณกะทิได้ตามความเหมาะสม
2. สามารถใช้กะทิกล่องแทนกะทิสดได้ไหม?
ได้ คุณสามารถใช้กะทิกล่องแทนกะทิสดได้ แต่กะทิสดจะมีกลิ่นและรสชาติที่ดีกว่ากะทิกล่อง
3. ถ้าไม่มีใบเตยสด สามารถใช้ใบเตยอบแห้งแทนได้หรือไม่?
ได้ แต่ควรแช่ใบเตยอบแห้งในน้ำก่อนใช้งานเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม ใบเตยสดจะมีกลิ่นหอมที่แรงกว่า
4. ควรใช้เนื้อมะพร้าวอ่อนหรือเนื้อมะพร้าวแก่?
ขึ้นอยู่กับขนมที่คุณทำ ขนมบางประเภท เช่น วุ้นใบเตย ควรใช้เนื้อมะพร้าวอ่อนเพื่อเพิ่มความกรุบกรอบ ขณะที่ขนมที่ต้องการความหวานมากกว่าอาจใช้เนื้อมะพร้าวแก่
5. สามารถทำขนมล่วงหน้าแล้วเก็บไว้ได้นานเท่าไหร่?
ขนมบางประเภทสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 1-2 วัน แต่ขนมที่มีส่วนผสมของกะทิสดควรบริโภคภายในวันเดียวเพื่อรสชาติที่ดีที่สุด
สรุป
การทำของหวานง่ายๆ ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาหรือเทคนิคซับซ้อน เพียงแค่คุณมีวัตถุดิบที่ดีและขั้นตอนการทำที่ถูกต้อง คุณก็สามารถสร้างสรรค์ขนมไทยอร่อยๆ ได้ที่บ้าน ทั้งข้าวเหนียวมะม่วง ขนมถ้วยโบราณ ขนมบ้าบิ่น หรือขนมอื่นๆ ที่คุณชื่นชอบ สิ่งสำคัญคือการปรับส่วนผสมและวิธีการทำให้เหมาะกับความต้องการของคุณเอง ไม่ว่าคุณจะมือใหม่หรือมือโปรในครัว การทำขนมง่ายๆ จะเป็นประสบการณ์ที่สนุกและเป็นการสร้างสรรค์อาหารที่อร่อยและมีคุณค่าให้กับครอบครัวและคนที่คุณรัก
ขนมไทยไม่ได้มีเพียงแค่ความอร่อย แต่ยังมีเสน่ห์ในเรื่องของสีสันและการนำเสนอ การใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ เช่น การเลือกใช้วัตถุดิบสดใหม่ การปรับรสชาติ และการจัดจานสวยงาม จะช่วยทำให้ขนมของคุณมีความพิเศษมากยิ่งขึ้น ลองใช้เวลาในครัวและเพลิดเพลินกับการทำขนมไทยง่ายๆ ที่บ้านดูสิ!