15 ขนมวันแม่: ขนมที่อบอุ่นใจในวันพิเศษของแม่

วันแม่เป็นวันที่ฉลองเกียรติและขอบคุณแม่ที่มีส่วนช่วยเสียงทำให้เราเติบโตใหญ่ขึ้น ในวันพิเศษนี้ ขนมกลายเป็นของที่ควรต้องมีบนโต๊ะของทุกครอบครัว ขนมมีความหมายทางสัญญาณถึงความอบอุ่นใจและความรักที่เราต้องการส่งให้แม่ ในบทความนี้เราจะนำเสนอ 15 ขนมวันแม่ที่ควรคิดถึงและพร้อมเสิร์ฟในวันที่สำคัญนี้ เพื่อเตรียมความสุขให้แม่ของคุณในวันที่พิเศษนี้

1. ขนมทองหยิบ

ส่วนผสม:

  • แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
  • น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • น้ำมะพร้าว 1/2 ถ้วย
  • ซอสมะพร้าว 1/2 ถ้วย
  • น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย

วิธีทำ:

  1. ผสมแป้งข้าวเจ้าและน้ำมะพร้าวให้เข้ากัน นำมาเป็นส่วนผสมเบสในการทำขนมทองหยิบ
  2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชให้ร้อน พอน้ำมันร้อนใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้เข้ากัน
  3. เมื่อน้ำตาลละลายและส่งกลิ่นหอม นำไปผสมในส่วนผสมเบสของแป้ง
  4. ใส่ไข่ไก่ลงในส่วนผสม คนให้เข้ากัน
  5. เติมน้ำปลาและเกลือลงในส่วนผสม คนให้เข้ากันและนวดให้นุ่มนวล
  6. ทำให้ส่วนผสมเป็นรูปกลมแบบส้มโครงเพื่อให้เป็นรูปขนมทองหยิบ
  7. นำขนมทองหยิบลงไปยังกระทะที่มีน้ำมันพืชอยู่
  8. ค่อยๆ ปรุงเป็นรูปด้วยไฟอ่อน รอจนกว่าขนมจะสุกกรอบ และมีสีทองเหลืองน้ำตาล
  9. เมื่อขนมสุกแล้ว นำออกมาพักให้เย็นสักครู่
  10. ผสมน้ำมะพร้าวกับซอสมะพร้าวให้เข้ากัน
  11. นำขนมทองหยิบลงไปแช่ในน้ำมะพร้าวและซอส ราดให้ทั่วตัว
  12. โรยน้ำตาลปี๊บลงบนขนมทองหยิบ
  13. เสิร์ฟขนมทองหยิบในจานสวยงาม

2. ขนมถั่วแปบ

ส่วนผสม:

  • ถั่วเขียวป่น 1 ถ้วย
  • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
  • น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย
  • น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย

วิธีทำ:

  1. ผสมถั่วเขียวป่นและแป้งข้าวเจ้าให้เข้ากัน นำมาเป็นส่วนผสมเบสในการทำขนมถั่วแปบ
  2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชให้ร้อน พอน้ำมันร้อนใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้เข้ากัน
  3. เมื่อน้ำตาลละลายและส่งกลิ่นหอม นำไปผสมในส่วนผสมเบสของถั่วเขียวและแป้ง
  4. เติมน้ำปลาและเกลือลงในส่วนผสม คนให้เข้ากันและนวดให้นุ่มนวล
  5. ทำให้ส่วนผสมเป็นรูปกลมแบบส้มโครงเพื่อให้เป็นรูปขนมถั่วแปบ
  6. นำขนมถั่วแปบลงไปยังกระทะที่มีน้ำมันพืชอยู่
  7. ค่อยๆ ปรุงเป็นรูปด้วยไฟอ่อน รอจนกว่าขนมจะสุกกรอบ
  8. เมื่อขนมสุกแล้ว นำออกมาพักให้เย็นสักครู่
  9. เสิร์ฟขนมถั่วแปบในจานสวยงาม

3. ขนมต้มมัด

ส่วนผสม:

  • ข้าวเหนียว 2 ถ้วย
  • น้ำมะพร้าว 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • ใบกะเพรา 5 ใบ
  • ใบตอม 5 ใบ
  • สาหร่ายแห้ง 1 ก้อน

วิธีทำ:

  1. ล้างข้าวเหนียวให้สะอาด แช่น้ำให้เปียกพอสมควร
  2. ใส่น้ำมะพร้าวลงในข้าวเหนียว คนให้เข้ากัน ให้ข้าวเหนียวอุ้มน้ำมะพร้าวให้ทั่วถึง
  3. ตั้งหม้อใส่น้ำประมาณ 2 ถ้วย นำไปตั้งให้เดือด
  4. เมื่อน้ำเดือด นำข้าวเหนียวมาห่อใส่ในใบตอมและใบกะเพราที่ล้างให้สะอาดแล้ว
  5. ห่อข้าวเหนียวให้ในรูปทรงกลมและเข้ากัน ค่อยๆ นำไปตั้งในหม้อที่มีน้ำเดือด
  6. ต้มขนมต้มมัดให้น้ำเดือดอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 15-20 นาที
  7. ในขณะที่ขนมต้มมัดกำลังต้ม เตรียมน้ำตาลทรายและน้ำมะพร้าวในหม้ออื่น นำไปตั้งให้เดือด คนให้เข้ากัน
  8. เมื่อขนมต้มมัดสุกแล้ว นำออกมาพักให้เย็นสักครู่
  9. ตักขนมต้มมัดลงในจาน โรยด้วยสาหร่ายแห้ง

4. ขนมไหว้พระจันทร์

ส่วนผสม:

  • แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
  • น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
  • น้ำมะพร้าว 1/2 ถ้วย
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย

วิธีทำ:

  1. ผสมแป้งข้าวเจ้าและน้ำมะพร้าวให้เข้ากัน นำมาเป็นส่วนผสมเบสในการทำขนมไหว้พระจันทร์
  2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชให้ร้อน พอน้ำมันร้อนใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้เข้ากัน
  3. เมื่อน้ำตาลละลายและส่งกลิ่นหอม นำไปผสมในส่วนผสมเบสของแป้ง
  4. ใส่ไข่ไก่ลงในส่วนผสม คนให้เข้ากัน
  5. เติมเกลือลงในส่วนผสม คนให้เข้ากันและนวดให้นุ่มนวล
  6. ทำให้ส่วนผสมเป็นรูปกลมแบบส้มโครงเพื่อให้เป็นรูปขนมไหว้พระจันทร์
  7. นำขนมไหว้พระจันทร์ลงไปยังกระทะที่มีน้ำมันพืชอยู่
  8. ค่อยๆ ปรุงเป็นรูปด้วยไฟอ่อน รอจนกว่าขนมจะสุกกรอบ และมีสีทองเหลืองน้ำตาล
  9. เมื่อขนมสุกแล้ว นำออกมาพักให้เย็นสักครู่
  10. ผสมน้ำมะพร้าวกับน้ำมันพืชให้เข้ากัน
  11. นำขนมไหว้พระจันทร์ลงไปแช่ในน้ำมะพร้าวและน้ำมัน ราดให้ทั่วตัว
  12. เสิร์ฟขนมไหว้พระจันทร์ในจานสวยงาม

5. ขนมกล้วยไข่บวก

ส่วนผสม:

  • กล้วยหอม 4 ผล
  • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
  • น้ำมะพร้าว 1/2 ถ้วย
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย

วิธีทำ:

  1. ล้างกล้วยหอมให้สะอาด และตัดปลายที่แป้นที่หางกล้วยออก
  2. นำกล้วยไปตั้งในน้ำเดือด ต้มให้สุก
  3. เมื่อกล้วยสุกแล้ว นำออกมากะเปลือกและบดให้ละเอียด
  4. ผสมแป้งข้าวเจ้าและน้ำมะพร้าวให้เข้ากัน นำมาเป็นส่วนผสมเบสในการทำขนมกล้วยไข่บวก
  5. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชให้ร้อน พอน้ำมันร้อนใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้เข้ากัน
  6. เมื่อน้ำตาลละลายและส่งกลิ่นหอม นำไปผสมในส่วนผสมเบสของแป้ง
  7. ใส่ไข่ไก่ลงในส่วนผสม คนให้เข้ากัน
  8. เติมเกลือลงในส่วนผสม คนให้เข้ากันและนวดให้นุ่มนวล
  9. ทำให้ส่วนผสมเป็นรูปกลมแบบส้มโครงเพื่อให้เป็นรูปขนมกล้วยไข่บวก
  10. นำขนมกล้วยไข่บวกลงไปยังกระทะที่มีน้ำมันพืชอยู่
  11. ค่อยๆ ปรุงเป็นรูปด้วยไฟอ่อน รอจนกว่าขนมจะสุกกรอบ และมีสีทองเหลืองน้ำตาล
  12. เมื่อขนมสุกแล้ว นำออกมาพักให้เย็นสักครู่
  13. โรยน้ำตาลทรายลงบนขนมกล้วยไข่บวก

6. ขนมลอดช่อง

ส่วนผสม:

  • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • น้ำมะพร้าว 1/2 ถ้วย
  • น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • ตะแกรงกุ้งแห้ง 1/4 ถ้วย
  • หมูหันหมูสามชั้น 1/4 ถ้วย
  • น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย

วิธีทำ:

  1. ผสมแป้งข้าวเจ้าและน้ำมะพร้าวให้เข้ากัน นำมาเป็นส่วนผสมเบสในการทำขนมลอดช่อง
  2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชให้ร้อน พอน้ำมันร้อนใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้เข้ากัน
  3. เมื่อน้ำตาลละลายและส่งกลิ่นหอม นำไปผสมในส่วนผสมเบสของแป้ง
  4. ใส่ไข่ไก่ลงในส่วนผสม คนให้เข้ากัน
  5. เติมน้ำปลาและเกลือลงในส่วนผสม คนให้เข้ากันและนวดให้นุ่มนวล
  6. ทำให้ส่วนผสมเป็นรูปกลมแบบส้มโครงเพื่อให้เป็นรูปขนมลอดช่อง
  7. นำขนมลอดช่องลงไปยังกระทะที่มีน้ำมันพืชอยู่
  8. ค่อยๆ ปรุงเป็นรูปด้วยไฟอ่อน รอจนกว่าขนมจะสุกกรอบ และมีสีทองเหลืองน้ำตาล
  9. เมื่อขนมสุกแล้ว นำออกมาพักให้เย็นสักครู่
  10. ผสมตะแกรงกุ้งแห้งและหมูหันหมูสามชั้นในกระเทียมสับและน้ำปลา
  11. นำขนมลอดช่องไปหมักในน้ำซอสที่ผสมตะแกรงกุ้งแห้งและหมูหันหมูสามชั้น
  12. เสิร์ฟขนมลอดช่องในจานสวยงาม

7. ขนมเหนียวดอกมะลิ

ส่วนผสม:

  • ข้าวเหนียวดอกมะลิ 2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • น้ำมะพร้าว 1/2 ถ้วย
  • น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
  • น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย

วิธีทำ:

  1. ล้างข้าวเหนียวดอกมะลิให้สะอาด และแช่น้ำให้เปียกพอสมควร
  2. ผสมน้ำมะพร้าวกับน้ำมันพืชให้เข้ากัน นำมาเป็นส่วนผสมเบสในการทำขนมเหนียวดอกมะลิ
  3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชให้ร้อน พอน้ำมันร้อนใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้เข้ากัน
  4. เมื่อน้ำตาลละลายและส่งกลิ่นหอม นำไปผสมในส่วนผสมเบสของข้าวเหนียวดอกมะลิ
  5. เติมน้ำปลาและเกลือลงในส่วนผสม คนให้เข้ากันและนวดให้นุ่มนวล
  6. ทำให้ส่วนผสมเป็นรูปกลมแบบส้มโครงเพื่อให้เป็นรูปขนมเหนียวดอกมะลิ
  7. นำขนมเหนียวดอกมะลิลงไปยังกระทะที่มีน้ำมันพืชอยู่
  8. ค่อยๆ ปรุงเป็นรูปด้วยไฟอ่อน รอจนกว่าขนมจะสุกกรอบ และมีสีทองเหลืองน้ำตาล
  9. เมื่อขนมสุกแล้ว นำออกมาพักให้เย็นสักครู่
  10. ผสมน้ำมะพร้าวกับน้ำปลาให้เข้ากัน
  11. นำขนมเหนียวดอกมะลิไปแช่ในน้ำมะพร้าวและน้ำปลา ราดให้ทั่วตัว
  12. เสิร์ฟขนมเหนียวดอกมะลิในจานสวยงาม

8. ขนมทองน้ำเงี้ยว

ส่วนผสม:

  • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
  • แป้งมัน 1/2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • น้ำมะพร้าว 1/2 ถ้วย
  • น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
  • น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย

วิธีทำ:

  1. ผสมแป้งข้าวเจ้าและแป้งมันให้เข้ากัน นำมาเป็นส่วนผสมเบสในการทำขนมทองน้ำเงี้ยว
  2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชให้ร้อน พอน้ำมันร้อนใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้เข้ากัน
  3. เมื่อน้ำตาลละลายและส่งกลิ่นหอม นำไปผสมในส่วนผสมเบสของแป้ง
  4. เติมน้ำปลาและเกลือลงในส่วนผสม คนให้เข้ากันและนวดให้นุ่มนวล
  5. ทำให้ส่วนผสมเป็นรูปกลมแบบส้มโครงเพื่อให้เป็นรูปขนมทองน้ำเงี้ยว
  6. นำขนมทองน้ำเงี้ยวลงไปยังกระทะที่มีน้ำมันพืชอยู่
  7. ค่อยๆ ปรุงเป็นรูปด้วยไฟอ่อน รอจนกว่าขนมจะสุกกรอบ และมีสีทองเหลืองน้ำตาล
  8. เมื่อขนมสุกแล้ว นำออกมาพักให้เย็นสักครู่
  9. ผสมน้ำมะพร้าวกับน้ำปลาให้เข้ากัน
  10. นำขนมทองน้ำเงี้ยวไปแช่ในน้ำมะพร้าวและน้ำปลา ราดให้ทั่วตัว
  11. เสิร์ฟขนมทองน้ำเงี้ยวในจานสวยงาม

9. ขนมหม้อแกง

ส่วนผสม:

  • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
  • แป้งมัน 1/2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • น้ำมะพร้าว 1/2 ถ้วย
  • น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
  • น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย

วิธีทำ:

  1. ผสมแป้งข้าวเจ้าและแป้งมันให้เข้ากัน นำมาเป็นส่วนผสมเบสในการทำขนมหม้อแกง
  2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชให้ร้อน พอน้ำมันร้อนใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้เข้ากัน
  3. เมื่อน้ำตาลละลายและส่งกลิ่นหอม นำไปผสมในส่วนผสมเบสของแป้ง
  4. เติมน้ำปลาและเกลือลงในส่วนผสม คนให้เข้ากันและนวดให้นุ่มนวล
  5. ทำให้ส่วนผสมเป็นรูปกลมแบบส้มโครงเพื่อให้เป็นรูปขนมหม้อแกง
  6. นำขนมหม้อแกงลงไปยังกระทะที่มีน้ำมันพืชอยู่
  7. ค่อยๆ ปรุงเป็นรูปด้วยไฟอ่อน รอจนกว่าขนมจะสุกกรอบ และมีสีทองเหลืองน้ำตาล
  8. เมื่อขนมสุกแล้ว นำออกมาพักให้เย็นสักครู่
  9. ผสมน้ำมะพร้าวกับน้ำปลาให้เข้ากัน
  10. นำขนมหม้อแกงไปแช่ในน้ำมะพร้าวและน้ำปลา ราดให้ทั่วตัว
  11. เสิร์ฟขนมหม้อแกงในจานสวยงาม

10. ขนมไข่เต่า

ส่วนผสม:

  • ไข่ไก่ 4 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
  • น้ำมะพร้าว 1/2 ถ้วย
  • น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
  • น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย

วิธีทำ:

  1. ผสมไข่ไก่และน้ำมะพร้าวให้เข้ากัน นำมาเป็นส่วนผสมเบสในการทำขนมไข่เต่า
  2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชให้ร้อน พอน้ำมันร้อนใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้เข้ากัน
  3. เมื่อน้ำตาลละลายและส่งกลิ่นหอม นำไปผสมในส่วนผสมเบสของไข่
  4. เติมน้ำปลาและเกลือลงในส่วนผสม คนให้เข้ากันและนวดให้นุ่มนวล
  5. ทำให้ส่วนผสมเป็นรูปกลมแบบส้มโครงเพื่อให้เป็นรูปขนมไข่เต่า
  6. นำขนมไข่เต่าลงไปยังกระทะที่มีน้ำมันพืชอยู่
  7. ค่อยๆ ปรุงเป็นรูปด้วยไฟอ่อน รอจนกว่าขนมจะสุกกรอบ และมีสีทองเหลืองน้ำตาล
  8. เมื่อขนมสุกแล้ว นำออกมาพักให้เย็นสักครู่
  9. นำขนมไข่เต่าไปแช่ในน้ำมะพร้าวและน้ำปลา ราดให้ทั่วตัว
  10. เสิร์ฟขนมไข่เต่าในจานสวยงาม

11. ขนมหมี่กวน

ส่วนผสม:

  • แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • น้ำมะพร้าว 1/2 ถ้วย
  • น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
  • น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย

วิธีทำ:

  1. ผสมแป้งข้าวเจ้าและน้ำมะพร้าวให้เข้ากัน นำมาเป็นส่วนผสมเบสในการทำขนมหมี่กวน
  2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชให้ร้อน พอน้ำมันร้อนใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้เข้ากัน
  3. เมื่อน้ำตาลละลายและส่งกลิ่นหอม นำไปผสมในส่วนผสมเบสของแป้ง
  4. เติมน้ำปลาและเกลือลงในส่วนผสม คนให้เข้ากันและนวดให้นุ่มนวล
  5. ทำให้ส่วนผสมเป็นรูปกลมแบบส้มโครงเพื่อให้เป็นรูปขนมหมี่กวน
  6. นำขนมหมี่กวนลงไปยังกระทะที่มีน้ำมันพืชอยู่
  7. ค่อยๆ ปรุงเป็นรูปด้วยไฟอ่อน รอจนกว่าขนมจะสุกกรอบ และมีสีทองเหลืองน้ำตาล
  8. เมื่อขนมสุกแล้ว นำออกมาพักให้เย็นสักครู่
  9. ผสมน้ำมะพร้าวกับน้ำปลาให้เข้ากัน
  10. นำขนมหมี่กวนไปแช่ในน้ำมะพร้าวและน้ำปลา ราดให้ทั่วตัว
  11. เสิร์ฟขนมหมี่กวนในจานสวยงาม

12. ขนมเปียกปูน

ส่วนผสม:

  • แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • น้ำมะพร้าว 1/2 ถ้วย
  • น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
  • น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย

วิธีทำ:

  1. ผสมแป้งข้าวเจ้าและน้ำมะพร้าวให้เข้ากัน นำมาเป็นส่วนผสมเบสในการทำขนมเปียกปูน
  2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชให้ร้อน พอน้ำมันร้อนใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้เข้ากัน
  3. เมื่อน้ำตาลละลายและส่งกลิ่นหอม นำไปผสมในส่วนผสมเบสของแป้ง
  4. เติมน้ำปลาและเกลือลงในส่วนผสม คนให้เข้ากันและนวดให้นุ่มนวล
  5. ทำให้ส่วนผสมเป็นรูปกลมแบบส้มโครงเพื่อให้เป็นรูปขนมเปียกปูน
  6. นำขนมเปียกปูนลงไปยังกระทะที่มีน้ำมันพืชอยู่
  7. ค่อยๆ ปรุงเป็นรูปด้วยไฟอ่อน รอจนกว่าขนมจะสุกกรอบ และมีสีทองเหลืองน้ำตาล
  8. เมื่อขนมสุกแล้ว นำออกมาพักให้เย็นสักครู่
  9. ผสมน้ำมะพร้าวกับน้ำปลาให้เข้ากัน
  10. นำขนมเปียกปูนไปแช่ในน้ำมะพร้าวและน้ำปลา ราดให้ทั่วตัว
  11. เสิร์ฟขนมเปียกปูนในจานสวยงาม

13. ขนมปังหม้อแกง

ส่วนผสม:

  • แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • น้ำมะพร้าว 1/2 ถ้วย
  • น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
  • น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย

วิธีทำ:

  1. ผสมแป้งข้าวเจ้าและน้ำมะพร้าวให้เข้ากัน นำมาเป็นส่วนผสมเบสในการทำขนมปังหม้อแกง
  2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชให้ร้อน พอน้ำมันร้อนใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้เข้ากัน
  3. เมื่อน้ำตาลละลายและส่งกลิ่นหอม นำไปผสมในส่วนผสมเบสของแป้ง
  4. เติมน้ำปลาและเกลือลงในส่วนผสม คนให้เข้ากันและนวดให้นุ่มนวล
  5. ทำให้ส่วนผสมเป็นรูปกลมแบบส้มโครงเพื่อให้เป็นรูปขนมปังหม้อแกง
  6. นำขนมปังหม้อแกงลงไปยังกระทะที่มีน้ำมันพืชอยู่
  7. ค่อยๆ ปรุงเป็นรูปด้วยไฟอ่อน รอจนกว่าขนมจะสุกกรอบ และมีสีทองเหลืองน้ำตาล
  8. เมื่อขนมสุกแล้ว นำออกมาพักให้เย็นสักครู่
  9. ผสมน้ำมะพร้าวกับน้ำปลาให้เข้ากัน
  10. นำขนมปังหม้อแกงไปแช่ในน้ำมะพร้าวและน้ำปลา ราดให้ทั่วตัว
  11. เสิร์ฟขนมปังหม้อแกงในจานสวยงาม

14. ขนมตาล

ส่วนผสม:

  • แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • น้ำมะพร้าว 1/2 ถ้วย
  • น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
  • น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย

วิธีทำ:

  1. ผสมแป้งข้าวเจ้าและน้ำมะพร้าวให้เข้ากัน นำมาเป็นส่วนผสมเบสในการทำขนมตาล
  2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชให้ร้อน พอน้ำมันร้อนใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้เข้ากัน
  3. เมื่อน้ำตาลละลายและส่งกลิ่นหอม นำไปผสมในส่วนผสมเบสของแป้ง
  4. เติมน้ำปลาและเกลือลงในส่วนผสม คนให้เข้ากันและนวดให้นุ่มนวล
  5. ทำให้ส่วนผสมเป็นรูปกลมแบบส้มโครงเพื่อให้เป็นรูปขนมตาล
  6. นำขนมตาลลงไปยังกระทะที่มีน้ำมันพืชอยู่
  7. ค่อยๆ ปรุงเป็นรูปด้วยไฟอ่อน รอจนกว่าขนมจะสุกกรอบ และมีสีทองเหลืองน้ำตาล
  8. เมื่อขนมสุกแล้ว นำออกมาพักให้เย็นสักครู่
  9. ผสมน้ำมะพร้าวกับน้ำปลาให้เข้ากัน
  10. นำขนมตาลไปแช่ในน้ำมะพร้าวและน้ำปลา ราดให้ทั่วตัว
  11. เสิร์ฟขนมตาลในจานสวยงาม

15. ขนมหม้อแกงเหนียวนมสด

ส่วนผสม:

  • แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • น้ำมะพร้าว 1/2 ถ้วย
  • น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
  • น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย
  • นมสด 1/2 ถ้วย

วิธีทำ:

  1. ผสมแป้งข้าวเจ้าและน้ำมะพร้าวให้เข้ากัน นำมาเป็นส่วนผสมเบสในการทำขนมหม้อแกงเหนียวนมสด
  2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชให้ร้อน พอน้ำมันร้อนใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้เข้ากัน
  3. เมื่อน้ำตาลละลายและส่งกลิ่นหอม นำไปผสมในส่วนผสมเบสของแป้ง
  4. เติมน้ำปลาและเกลือลงในส่วนผสม คนให้เข้ากันและนวดให้นุ่มนวล
  5. ทำให้ส่วนผสมเป็นรูปกลมแบบส้มโครงเพื่อให้เป็นรูปขนมหม้อแกงเหนียวนมสด
  6. นำขนมหม้อแกงเหนียวนมสดลงไปยังกระทะที่มีน้ำมันพืชอยู่
  7. ค่อยๆ ปรุงเป็นรูปด้วยไฟอ่อน รอจนกว่าขนมจะสุกกรอบ และมีสีทองเหลืองน้ำตาล
  8. เมื่อขนมสุกแล้ว นำออกมาพักให้เย็นสักครู่
  9. ผสมน้ำมะพร้าวกับน้ำปลาให้เข้ากัน
  10. นำขนมหม้อแกงเหนียวนมสดไปแช่ในน้ำมะพร้าวและน้ำปลา ราดให้ทั่วตัว
  11. เสิร์ฟขนมหม้อแกงเหนียวนมสดในจานสวยงาม

สรุป

ขนมวันแม่ เป็นของหวานที่มีความหมายสำคัญในวันพิเศษนี้ การทำขนมวันแม่ ไม่เพียงแค่เสริมสร้างความอบอุ่นและความสุขในครอบครัว แต่ยังเป็นการแสดงความยิ่งใหญ่และพลังงานที่ไม่มีวันลืมถึงแม่ที่ให้ความรักและสงบสุข ขนมวันแม่ จึงเป็นสิ่งที่น่ารักและพิเศษที่จะเติมเต็มความอบอุ่นในใจแม่เสมอ พร้อมทำให้วันแม่เป็นวันที่มีความสุขอย่างแท้จริง อย่างที่แม่เคยให้ความสำคัญในทุกๆ วัน ขนมวันแม่ อยู่เสมอในหัวใจและอยู่ในใจของเราเสมอ ไม่มีวันลืมถึงความอบอุ่นและความหวานที่แม่ให้มากกว่าทุกสิ่งในโลก ขอบคุณแม่ที่ให้ความรักและความอบอุ่นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ขนมวันแม่ เป็นเครื่องดื่มที่หอมหวาน เหมาะกับทุกเพศทุกวัยและเป็นที่น่าต้อนรับที่มีความอบอุ่นและน่ารักที่สุด สำหรับวันแม่ที่หวานหวาน ขอบคุณที่คุณแม่ที่ให้ความสำคัญในทุกๆ วัน รักคุณมากค่ะ