15 ขนมหวานเมนูอร่อยที่ควรลองทำเองในบ้าน

คุณเป็นแฟนอาหารไทยหรือเปล่าครับ ถ้าใช่ละก็ต้องลองชิม “ขนมหวาน” ที่เป็นอย่างพิเศษและหวานหอมเหมือนไม่ใช่ใคร เป็นอาหารหวานที่สำคัญของวัฒนธรรมไทย และเป็นที่รู้จักในวันสำคัญและงานเลี้ยงต่างๆ ในบทความนี้เราจะพาคุณไปสำรวจโลกของขนมหวานและแนะนำเมนูอร่อยที่คุณสามารถทำเองในครัวบ้านได้ทันที

1. ขนมเปียกปูน (Khanom Piak Poon)

ส่วนผสม:

  • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย
  • น้ำตะไคร้ 2 ถ้วย
  • น้ำใบเตย 1/2 ถ้วย
  • กะทิ 1/2 ถ้วย
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ:

  1. ผสมแป้งข้าวเจ้ากับน้ำตาลทรายในชาม คนให้เข้ากัน
  2. นำน้ำตะไคร้มาต้มให้เดือด และกรองเอาเฉพาะน้ำมาเทใส่ในหม้อนึ่ง
  3. เติมน้ำใบเตยลงในน้ำตะไคร้และน้ำตาลปี๊บ คนให้เข้ากันและต้มให้เดือด
  4. เมื่อน้ำตะไคร้เดือดแล้ว ให้เติมกะทิลงไป คนให้เข้ากัน
  5. ค่อยๆ นำแป้งข้าวเจ้าที่ผสมน้ำตาลทรายลงไปในหม้อนึ่ง คนให้เข้ากันและต้มให้เสร็จสมบูรณ์
  6. เมื่อขนมเปียกปูนสุกแล้ว ให้นำออกมาหั่นเป็นชิ้น

2. ขนมลอดช่อง (Khanom Lod Chong)

ส่วนผสม:

  • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
  • น้ำใบเตย 1/2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • กะทิ 1/2 ถ้วย
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ:

  1. ผสมแป้งข้าวเจ้ากับน้ำใบเตยในชาม คนให้เข้ากัน
  2. นำน้ำตาลทรายมาต้มให้เดือด และใส่เกลือลงไป คนให้เข้ากันและนำไปเติมในน้ำใบเตยที่คนให้เข้ากัน
  3. เมื่อน้ำตาลทรายละลายและเกลือเคลือบน้ำใบเตย ให้นำแป้งข้าวเจ้าที่ผสมน้ำใบเตยลงไป คนให้เข้ากันและนวดให้เป็นเนื้อแป้งข้าวเจ้า
  4. หลังจากนั้น ให้นวดแป้งข้าวเจ้าให้ลอกลอดผ่านท่อพลาสติก และนำไปตัดเป็นเส้นลอง

3. ขนมบ้าบิ่น (Khanom Babin)

ส่วนผสม:

  • แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย
  • กะทิ 1 1/2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ:

  1. นำแป้งข้าวเจ้ามาคนให้เข้ากันกับกะทิและน้ำตาลทราย
  2. เติมเกลือลงไป คนให้เข้ากัน
  3. นำผลิตภัณฑ์ที่ผสมกันไว้ลงในหม้อต้มน้ำที่เดือด
  4. คนให้เกลือเข้ากันกับแป้งข้าวเจ้าและกะทิให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  5. เมื่อผลิตภัณฑ์เริ่มสุก ให้นำออกมาหั่นเป็นชิ้นและนำไปตั้งไว้ในถาดให้แห้ง

4. ขนมตะโก้ (Kanom Tako)

ส่วนผสม:

  • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
  • กะทิ 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • ใบเตยสดหรือผงเตย 5 ใบ

วิธีทำ:

  1. ผสมแป้งข้าวเจ้ากับกะทิในชาม คนให้เข้ากัน
  2. นำน้ำตาลทรายมาต้มให้เดือด และนำใบเตยมาคั่วให้หอม คนให้เข้ากัน
  3. เมื่อน้ำตาลทรายละลายและใบเตยหอม เทใส่ชามของแป้งข้าวเจ้าและกะทิ คนให้เข้ากันให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  4. นำผลิตภัณฑ์ที่ได้ไปตั้งไว้ในถาดให้แห้ง

5. ขนมถั่ว (Khanom Tua)

ส่วนผสม:

  • ถั่วเขียว 1 ถ้วย
  • แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
  • กะทิ 1/2 ถ้วย
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย

วิธีทำ:

  1. นำถั่วเขียวมาล้างให้สะอาดและแช่น้ำเป็นเวลา 1 คืบ
  2. นำถั่วเขียวที่แช่น้ำไว้มาตั้งน้ำให้เดือด และต้มให้ถั่วนุ่ม และระเหยหอม
  3. นำน้ำตาลทรายมาคนให้เข้ากับกะทิ และนำไปเติมในน้ำที่ต้มถั่ว
  4. เมื่อน้ำตาลทรายละลายและถั่วนุ่มและหอม ให้เติมแป้งข้าวเจ้าลงไปคนให้เข้ากัน
  5. คนให้เป็นเนื้อเดียวกันแล้วตั้งไว้ให้หายใจค้าง และหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ

6. ขนมชั้นมะพร้าว (Khanom Chan Maprao)

ส่วนผสม:

  • กะทิ 2 ถ้วย
  • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • ใบเตยสดหรือผงเตย 5 ใบ
  • เนื้อมะพร้าวสด 1/2 ถ้วย

วิธีทำ:

  1. นำกะทิมาคนให้เข้ากันกับแป้งข้าวเจ้า คนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน
  2. นำน้ำตาลทรายมาคั่วให้หอม และใส่ใบเตยลงไป คนให้เข้ากันและเทลงในกะทิที่คนให้เข้ากัน
  3. นำน้ำที่คั่วให้หอมลงในกะทิและแป้งข้าวเจ้า คนให้เข้ากันให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  4. ใส่เนื้อมะพร้าวสดลงไปในหม้อต้มน้ำที่เดือดและตั้งความร้อนให้ตั้งน้ำตาล นำกะทิที่ผสมกับแป้งข้าวเจ้าลงไปในน้ำที่มีความร้อน
  5. คนให้เข้ากันให้เป็นเนื้อเดียวกัน นำไปตั้งน้ำในหม้อต้มน้ำเดือด คนให้เข้ากันและคนอย่างต่อเนื่องให้เป็นเนื้อขนม
  6. เมื่อขนมชั้นมะพร้าวสุกแล้วให้นำออกมาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม

7. ขนมลอดช่องกะทิ (Khanom Lod Chong Ga-ti)

ส่วนผสม:

  • กะทิ 2 ถ้วย
  • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ:

  1. นำแป้งข้าวเจ้ามาคนให้เข้ากันกับกะทิ คนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน
  2. นำน้ำตาลทรายมาคั่วให้หอม และเติมเกลือลงไป คนให้เข้ากัน
  3. นำน้ำที่คั่วให้หอมลงในกะทิและแป้งข้าวเจ้า คนให้เข้ากันให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  4. คนให้เป็นเนื้อเดียวกันแล้วตั้งไว้ให้หายใจค้าง และหั่นเป็นเส้นลอง

8. ขนมจีนเปียก (Khanom Jeen Piak)

ส่วนผสม:

  • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
  • กะทิ 1/2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • ใบเตยสดหรือผงเตย 5 ใบ

วิธีทำ:

  1. นำแป้งข้าวเจ้ามาคนให้เข้ากันกับกะทิ คนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน
  2. นำน้ำตาลทรายมาคั่วให้หอม และใส่ใบเตยลงไป คนให้เข้ากันและเทลงในกะทิที่คนให้เข้ากัน
  3. นำน้ำที่คั่วให้หอมลงในกะทิและแป้งข้าวเจ้า คนให้เข้ากันให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  4. ใส่เนื้อมะพร้าวสดลงไปในหม้อต้มน้ำที่เดือดและตั้งความร้อนให้ตั้งน้ำตาล นำกะทิที่ผสมกับแป้งข้าวเจ้าลงไปในน้ำที่มีความร้อน
  5. คนให้เข้ากันให้เป็นเนื้อเดียวกัน นำไปตั้งน้ำในหม้อต้มน้ำเดือด คนให้เข้ากันและคนอย่างต่อเนื่องให้เป็นเนื้อขนม

9. ขนมลวก (Khanom Lwak)

ส่วนผสม:

  • กะทิ 2 ถ้วย
  • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ:

  1. นำแป้งข้าวเจ้ามาคนให้เข้ากันกับกะทิ คนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน
  2. นำน้ำตาลทรายมาคั่วให้หอม และเติมเกลือลงไป คนให้เข้ากัน
  3. นำน้ำที่คั่วให้หอมลงในกะทิและแป้งข้าวเจ้า คนให้เข้ากันให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  4. คนให้เป็นเนื้อเดียวกันแล้วตั้งไว้ให้หายใจค้าง และหั่นเป็นชิ้นใส่ถาด

10. ขนมตาล (Khanom Tarn)

ส่วนผสม:

  • แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย
  • กะทิ 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ:

  1. นำแป้งข้าวเจ้ามาคนให้เข้ากันกับกะทิ คนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน
  2. นำน้ำตาลทรายมาคั่วให้หอม และเติมเกลือลงไป คนให้เข้ากัน
  3. นำน้ำที่คั่วให้หอมลงในกะทิและแป้งข้าวเจ้า คนให้เข้ากันให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  4. คนให้เป็นเนื้อเดียวกันแล้วตั้งไว้ให้หายใจค้าง และหั่นเป็นชิ้นใส่ถาด

11. ขนมสอดไส้ (Khanom Sod Sai)

ส่วนผสม:

  • แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย
  • กะทิ 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ:

  1. นำแป้งข้าวเจ้ามาคนให้เข้ากันกับกะทิ คนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน
  2. นำน้ำตาลทรายมาคั่วให้หอม และเติมเกลือลงไป คนให้เข้ากัน
  3. นำน้ำที่คั่วให้หอมลงในกะทิและแป้งข้าวเจ้า คนให้เข้ากันให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  4. คนให้เป็นเนื้อเดียวกันแล้วตั้งไว้ให้หายใจค้าง และหั่นเป็นชิ้นใส่ถาด

12. ขนมน้ำพลู (Khanom Num Plu)

ส่วนผสม:

  • แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
  • กะทิ 1/2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • ใบเตยสดหรือผงเตย 5 ใบ

วิธีทำ:

  1. นำแป้งข้าวเจ้ามาคนให้เข้ากันกับกะทิ คนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน
  2. นำน้ำตาลทรายมาคั่วให้หอม และใส่ใบเตยลงไป คนให้เข้ากันและเทลงในกะทิที่คนให้เข้ากัน
  3. นำน้ำที่คั่วให้หอมลงในกะทิและแป้งข้าวเจ้า คนให้เข้ากันให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  4. ใส่เนื้อมะพร้าวสดลงไปในหม้อต้มน้ำที่เดือดและตั้งความร้อนให้ตั้งน้ำตาล นำกะทิที่ผสมกับแป้งข้าวเจ้าลงไปในน้ำที่มีความร้อน
  5. คนให้เข้ากันให้เป็นเนื้อเดียวกัน นำไปตั้งน้ำในหม้อต้มน้ำเดือด คนให้เข้ากันและคนอย่างต่อเนื่องให้เป็นเนื้อขนม

13. ขนมบ้าบอน (Khanom Ba-Bon)

ส่วนผสม:

  • แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย
  • กะทิ 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ:

  1. นำแป้งข้าวเจ้ามาคนให้เข้ากันกับกะทิ คนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน
  2. นำน้ำตาลทรายมาคั่วให้หอม และเติมเกลือลงไป คนให้เข้ากัน
  3. นำน้ำที่คั่วให้หอมลงในกะทิและแป้งข้าวเจ้า คนให้เข้ากันให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  4. คนให้เป็นเนื้อเดียวกันแล้วตั้งไว้ให้หายใจค้าง และหั่นเป็นชิ้นใส่ถาด

14. ขนมสังขยา (Khanom Sangkaya)

ส่วนผสม:

  • ไข่ไก่ 6 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • กะทิ 2 ถ้วย
  • ใบเตย 5 ใบ

วิธีทำ:

  1. นำไข่ไก่มาตีให้เข้ากันกับน้ำตาลทราย คนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน
  2. นำกะทิมาเคี่ยวให้เดือด และใส่ใบเตยลงไป คนให้เข้ากันและเทลงไปในไข่ไก่ที่ตีกับน้ำตาลทราย
  3. คนให้เข้ากันให้เป็นเนื้อเดียวกันแล้วตั้งไว้ให้หายใจค้าง และหั่นเป็นชิ้นเสร็จสมบูรณ์

15. ขนมเหนียวทุเรียน (Khanom Neaw Tu-rean)

ส่วนผสม:

  • ข้าวเหนียว 2 ถ้วย
  • น้ำกะทิ 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • ทุเรียนสุก 1 ผล

วิธีทำ:

  1. นำข้าวเหนียวมาคั่วให้เม็ดพอแห้งและเดือดใส่น้ำ และนำมาคนให้เข้ากันกับน้ำกะทิ คนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน
  2. นำน้ำตาลทรายมาคั่วให้หอม และเติมเกลือลงไป คนให้เข้ากัน
  3. นำน้ำที่คั่วให้หอมลงในกะทิและข้าวเหนียว คนให้เข้ากันให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  4. ใส่ทุเรียนสุกลงไปในหม้อต้มน้ำที่เดือดและตั้งความร้อนให้ตั้งน้ำตาล นำข้าวเหนียวที่ผสมกับกะทิลงไปในน้ำที่มีความร้อน
  5. คนให้เข้ากันให้เป็นเนื้อเดียวกัน นำไปตั้งน้ำในหม้อต้มน้ำเดือด คนให้เข้ากันและคนอย่างต่อเนื่องให้เป็นเนื้อขนม

สรุป

ในบทความนี้เราได้รู้จักกับ 15 เมนูขนมหวานที่อร่อยน่าลองทำในบ้าน แต่ละเมนูมีส่วนผสมที่ค่อนข้างง่ายต่อการหาในท้องตลาด อาทิ แป้งข้าวเจ้า กะทิ น้ำตาลทราย เกลือ น้ำตะไคร้ น้ำใบเตย และทุเรียนสุก ซึ่งสามารถแปลงเป็นขนมหวานที่อร่อยและทำให้ครอบครัวทุกคนมีความสุขกับรสชาติอันหวานหอมนุ่มนวล อย่างไรก็ตามเมื่อทำขนมหวานเสร็จสิ้น อย่าลืมชวนคนในครอบครัวมาร่วมชิมขนมใหม่ๆ ที่คุณได้ทำขึ้นด้วยมือของคุณเอง สุขสันต์ในการทำขนมและในการสัมผัสรสชาติอันหวานหอมที่อร่อยน่าลิ้มกันได้แน่นอน!