ในยุคที่ความสำเร็จและความเร่งด่วนของชีวิตทำให้เกิดภาวะเครียดและอาการทางร่างกายที่ไม่ดีขึ้นเรื่อยๆ การดูแลสุขภาพและการรักษาสมดุลของร่างกายเป็นสิ่งสำคัญที่ยิ่งใหญ่ เราควรให้ความสำคัญในการบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ เพื่อสร้างความสุขและสมดุลให้กับร่างกาย อาหารวีแกนเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจที่ควรคำนึงถึงในการดูแลสุขภาพของคุณ
เมนูที่ 1: แกงเขียวหวานเห็ดฟาง
ส่วนผสม:
- เห็ดฟาง 200 กรัม
- มะเขือเทศ 1 ลูก
- พริกชี้ฟ้า 2-3 เม็ด
- ใบมะกรูด 5 ใบ
- ขิงสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- ตะไคร้สับ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอยเกลือสำหรับทำเมนูเจ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทรายสีขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันมะกอกสำหรับทอด 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันรำข้าวสำหรับทอด 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทรายสีขาว 1 ช้อนชา
ขั้นตอนการทำ:
- หั่นเห็ดฟางเป็นชิ้นเล็ก ๆ และเตรียมมะเขือเทศเป็นชิ้น ๆ พร้อมทำพริกชี้ฟ้าให้พอดี
- ใส่น้ำมันรำข้าวและน้ำมันมะกอกในกระทะทอด นำเห็ดฟางไปทอดจนกรอบ และให้สีทองเข้ม ตักขึ้นพักไว้
- ทำน้ำซุปโดยใส่น้ำให้เดือด และใส่ขิงสับ ตะไคร้สับ ใบมะกรูด น้ำมะขามเปียก น้ำปลาสำหรับผัด น้ำมันหอยเกลือสำหรับทำเมนูเจ และน้ำตาลทรายสีขาว คนให้เข้ากัน
- เมื่อน้ำซุปเดือด ใส่เห็ดฟางที่ทอดไว้ลงไป และใส่มะเขือเทศตามลงไปด้วย คนให้เข้ากันอีกครั้ง ตั้งไฟให้น้ำเดือด ใส่พริกชี้ฟ้าลงไป ปรุงรสด้วยเกลือและน้ำตาลทรายสีขาว
- เสร็จสิ้นเมนูแกงเขียวหวานเห็ดฟาง รับประทานคู่กับข้าวสวย หรือข้าวกล้องก็อร่อยไม่แพ้กัน
เมนูที่ 2: ผัดเผ็ดถั่วฝักยาวและข้าวโพด
ส่วนผสม:
- ถั่วฝักยาว 200 กรัม
- ข้าวโพดคุกก่อน 1 หู
- หอมหัวใหญ่ซอย 1 หัว
- พริกแดง 2 เม็ด
- กระเทียมสับ 5-6 กลีบ
- น้ำมันงาสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอยเกลือสำหรับเมนูเจ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนการทำ:
- ล้างถั่วฝักยาวให้สะอาด และหั่นออกเส้นยาวประมาณ 2 นิ้ว ทำเช่นเดียวกับข้าวโพด
- ซอยหอมหัวใหญ่ พริกแดง และกระเทียมสับให้ละเอียด
- ใส่น้ำมันงาสำหรับผัดลงในกระทะ ตั้งไฟกลาง รอให้น้ำมันร้อน และใส่ส่วนผสมของหอมหัวใหญ่ พริกแดง และกระเทียมลงไปผัดให้หอม
- เมื่อส่วนผสมหอมหัวใหญ่ พริกแดง และกระเทียมสุกแล้ว ใส่ถั่วฝักยาวลงไปผัดให้สุก ใส่ข้าวโพดคุกก่อนลงไปผัดให้เข้ากัน
- ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำปลาสำหรับผัด คนให้เข้ากันให้เป็นอย่างดี ทิ้งไฟ และเสร็จสิ้นเมนูผัดเผ็ดถั่วฝักยาวและข้าวโพด
เมนูที่ 3: ข้าวผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์
ส่วนผสม:
- ข้าวสวย 1 ถ้วย
- มะม่วงหิมพานต์สุก 1 ผล
- หอมหัวใหญ่ 1 หัว
- กระเทียมสับ 3-4 กลีบ
- พริกแดงสับ 1 เม็ด
- ถั่วฝักยาว 1 ถ้วย
- น้ำมันสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอยเกลือสำหรับเมนูเจ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
- มะนาว 1 ลูก
- ถั่วงอก 1 ถ้วย
ขั้นตอนการทำ:
- ล้างและสะกดข้าวสวยให้แห้ง
- ซอยหอมหัวใหญ่ มะม่วงหิมพานต์ และกระเทียมสับให้ละเอียด
- ใส่น้ำมันสำหรับผัดในกระทะ ตั้งไฟกลาง รอให้น้ำมันร้อน และใส่ส่วนผสมของหอมหัวใหญ่ มะม่วงหิมพานต์ และกระเทียมสับลงไปผัดให้หอม
- เมื่อส่วนผสมหอมหัวใหญ่ มะม่วงหิมพานต์ และกระเทียมสุกแล้ว ใส่ข้าวสวยลงไปผัดให้เข้ากัน ใส่ถั่วงอกลงไปผัดต่อจากนั้น
- ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำปลาสำหรับผัด คนให้เข้ากันให้เป็นอย่างดี ใส่พริกแดงสับลงไป และบีบมะนาวลงไป คนให้เข้ากันอีกครั้ง
- เมื่อเสร็จสิ้นเมนูข้าวผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ใส่ในจานเสิร์ฟพร้อมกับผักสดหรือแซลฟ์เสริฟ์สุดอร่อย
เมนูที่ 4: สลัดผักบุ้งทอดเส้นใหญ่
ส่วนผสม:
- เส้นใหญ่ 100 กรัม
- ผักบุ้ง 1 มัด
- แครอท 1 หัว
- ถั่วงอก 1 ถ้วย
- มะเขือเทศ 1 ลูก
- กระเทียมสับ 3-4 กลีบ
- พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
- น้ำมันงาสำหรับทอด 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอยเกลือสำหรับเมนูเจ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนการทำ:
- ล้างผักบุ้งให้สะอาด และหั่นเส้นยาวประมาณ 3 นิ้ว ทำเช่นเดียวกับแครอทและมะเขือเทศ
- ใส่น้ำมันงาสำหรับทอดในกระทะ ตั้งไฟกลาง รอให้น้ำมันร้อน และทอดเส้นใหญ่จนกรอบ และเริ่มเหลือง ตักขึ้นพักไว้
- ซอยแครอทให้เป็นเส้นบาง ๆ และแต่งกลีบดอกดาวเป็นรูปดอกจิก
- ทำน้ำยำโดยใส่น้ำมันหอยเกลือสำหรับเมนูเจ น้ำปลาสำหรับผัด น้ำตาลปี๊บ และพริกไทยป่น คนให้เข้ากันให้เป็นอย่างดี
- เมื่อเสร็จสิ้นทุกอย่าง ใส่ผักบุ้งและแครอทลงในชาม รวมถึงมะเขือเทศและถั่วงอกด้วย คลุกเคล้ากับน้ำยำที่เตรียมไว้
- นำเส้นใหญ่ที่ทอดไว้มาแต่งหน้าสลัดด้วย และเสิร์ฟพร้อมกับแครกน้ำยำที่เหลือไว้ รับประทานให้อร่อยคู่กับข้าวสวยหรือขนมปังอบกรอบ
เมนูที่ 5: แกงจืดเต้าหู้
ส่วนผสม:
- เต้าหู้สด 200 กรัม
- แครอท 1 หัว
- ฟักทอง 1 ชิ้น
- ถั่วงอก 1 ถ้วย
- หน่อไม้ฝรั่ง 1 ก้อน
- ใบชะพลูสด 1 กำ
- กระเทียมสับ 3-4 กลีบ
- พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
- น้ำมันงาสำหรับทอด 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอยเกลือสำหรับเมนูเจ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนการทำ:
- ล้างและหั่นเต้าหู้เป็นชิ้นเล็ก ๆ พร้อมเตรียมแครอทและฟักทองให้หั่นเป็นชิ้นเตรียมไว้ด้วย
- ซอยหน่อไม้ฝรั่งให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ และเตรียมใบชะพลูสดไว้
- ใส่น้ำมันงาสำหรับทอดในกระทะ ตั้งไฟกลาง รอให้น้ำมันร้อน และทอดเต้าหู้จนกรอบ และสุก ตักขึ้นพักไว้
- ใส่แครอทและฟักทองลงไปผัดในกระทะ คนให้สุกและนิ่ม ใส่ถั่วงอกและหน่อไม้ฝรั่งลงไปผัดต่อจากนั้น
- ทำน้ำซุปโดยใส่น้ำให้เดือด และใส่เต้าหู้ที่ทอดไว้ลงไป คนให้เข้ากัน ใส่ใบชะพลูสดลงไปในน้ำซุปด้วย
- ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำปลาสำหรับผัด คนให้เข้ากันให้เป็นอย่างดี ปิดไฟและเสร็จสิ้นเมนูแกงจืดเต้าหู้ รับประทานคู่กับข้าวสวยหรือข้าวเหนียวก็อร่อยไม่แพ้กัน
เมนูที่ 6: ข้าวคลุกแกงเขียวหวานเผือก
ส่วนผสม:
- ข้าวเหนียว 1 ถ้วย
- เผือกสด 1 ผล
- กะทิ 1/2 ถ้วย
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
- หัวกะทิสด 1 ถ้วย
- แป้งข้าวเหนียว 1/4 ถ้วย
ขั้นตอนการทำ:
- ล้างข้าวเหนียวให้สะอาดและแช่น้ำให้น้ำซึมควรแช่น้ำไว้ประมาณ 6-8 ชม. หรือแช่ค้างคืนก็ได้
- นำเผือกสดมาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ เตรียมหัวกะทิสดและแป้งข้าวเหนียวไว้
- ตั้งน้ำในหม้อตั้งไฟกลาง ใส่หัวกะทิสดลงไปคนให้เข้ากัน รอให้น้ำเดือด
- ใส่ข้าวเหนียวลงไป คนให้เข้ากันเรื่อย ๆ รอให้ข้าวเหนียวสุกและน้ำกะทิหนืดเป็นแบบข้น ๆ ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและเกลือคนให้เข้ากัน
- ใส่เผือกสดลงไปและคนให้เข้ากัน ใส่กะทิเหลือทิ้งในหม้อลงไปคนให้เข้ากันให้ดี
- เมื่อข้าวคลุกแกงเขียวหวานเผือกเริ่มเหนียวและหอมหวาน ให้ตักขึ้นใส่จาน รับประทานคู่กับผลไม้สดหรือถั่วแบบไทย
เมนูที่ 7: แกงส้มผักกาดหมู
ส่วนผสม:
- กาดหมูสับ 200 กรัม
- มะเขือเทศเขียว 2 ลูก
- ต้นหอมซอย 1 ต้น
- ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
- ตะไคร้ซอย 2 ต้น
- น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทรายสีขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูสับ 1 เม็ด
ขั้นตอนการทำ:
- ล้างและสับกาดหมูให้ละเอียด และเตรียมมะเขือเทศเขียวให้หั่นเป็นชิ้น
- ซอยต้นหอม ใบมะกรูด และตะไคร้ให้ละเอียด พร้อมทำพริกขี้หนูสับให้ละเอียดเตรียมไว้
- ตั้งน้ำในหม้อตั้งไฟกลาง ใส่กาดหมูลงไปคนให้สุกและนิ่ม ใส่มะเขือเทศเขียวลงไปผัดต่อจากนั้น
- ทำน้ำซุปโดยใส่น้ำให้เดือด และใส่ต้นหอม ใบมะกรูด และตะไคร้ซอยลงไปคนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลาสำหรับผัด น้ำตาลปี๊บ และน้ำตาลทรายสีขาว
- เมื่อเสร็จสิ้นเมนูแกงส้มผักกาดหมู ใส่ในชามเสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวยหรือข้าวกล้องก็อร่อยไม่แพ้กัน
เมนูที่ 8: แกงเห็ดหนุ่มผัดตำลึง
ส่วนผสม:
- เห็ดหนุ่ม 200 กรัม
- ตำลึงสด 1 ก้อน
- หัวกะทิสด 1 ถ้วย
- น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทรายสีขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูสับ 1 เม็ด
- กระเทียมสับ 3-4 กลีบ
- ต้นหอมซอย 1 ต้น
ขั้นตอนการทำ:
- ล้างและหั่นเห็ดหนุ่มเป็นชิ้นเล็ก ๆ พร้อมทำตำลึงสดให้เป็นเส้นบาง ๆ
- ซอยต้นหอมให้ละเอียด และเตรียมพริกขี้หนูสับและกระเทียมสับไว้
- ตั้งน้ำในหม้อตั้งไฟกลาง ใส่หัวกะทิสดลงไปคนให้เข้ากัน รอให้น้ำเดือด
- ใส่เห็ดหนุ่มลงไปผัดในกระทะ คนให้สุกและนิ่ม ใส่ตำลึงสดลงไปผัดต่อจากนั้น
- ทำน้ำซุปโดยใส่น้ำให้เดือด และใส่ต้นหอมซอย พริกขี้หนูสับ น้ำมะขามเปียก น้ำปลาสำหรับผัด น้ำตาลปี๊บ และน้ำตาลทรายสีขาวคนให้เข้ากัน
- เมื่อเสร็จสิ้นเมนูแกงเห็ดหนุ่มผัดตำลึง ใส่ในชามเสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวยหรือข้าวกล้อง รับประทานคู่กับผักสดหรือแซลฟ์เสริฟ์เสร็จ
เมนูที่ 9: พาสต้าเบอร์รีเม็ดสลัด
ส่วนผสม:
- พาสต้าเบอร์รีเม็ด 200 กรัม
- แตงกวา 1 ชิ้น
- มะเขือเทศแดง 1 ผล
- หัวกระทิสด 1 ถ้วย
- น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทรายสีขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูสับ 1 เม็ด
- กระเทียมสับ 3-4 กลีบ
- ผักชีซอย 1 กำ
ขั้นตอนการทำ:
- ล้างและหั่นพาสต้าเบอร์รีเม็ดให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ และเตรียมแตงกวาให้หั่นเป็นชิ้น
- ซอยมะเขือเทศแดงให้ละเอียด และเตรียมกระเทียมสับและพริกขี้หนูสับไว้
- ตั้งน้ำในหม้อตั้งไฟกลาง ใส่หัวกะทิสดลงไปคนให้เข้ากัน รอให้น้ำเดือด
- ใส่พาสต้าเบอร์รีเม็ดลงไปคนให้สุกและนิ่ม ใส่แตงกวาลงไปผัดต่อจากนั้น
- ทำน้ำซุปโดยใส่น้ำให้เดือด และใส่มะเขือเทศแดง น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำปลาสำหรับผัด น้ำตาลทรายสีขาว พริกขี้หนูสับ และกระเทียมสับคนให้เข้ากัน
- เมื่อเสร็จสิ้นเมนูพาสต้าเบอร์รีเม็ดสลัด ใส่ในชามเสิร์ฟพร้อมกับผักชีซอย รับประทานคู่กับแซลฟ์เสริฟ์เสร็จ
เมนูที่ 10: ยำสาหร่ายทะเล
ส่วนผสม:
- สาหร่ายสด 200 กรัม
- มะเขือเทศสีส้ม 1 ผล
- หัวกะทิสด 1 ถ้วย
- น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทรายสีขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูสับ 1 เม็ด
- กระเทียมสับ 3-4 กลีบ
- ผักชีซอย 1 กำ
ขั้นตอนการทำ:
- ล้างและสับสาหร่ายให้ละเอียด และเตรียมมะเขือเทศสีส้มให้หั่นเป็นชิ้น
- ซอยหัวกะทิให้ละเอียด และเตรียมกระเทียมสับและพริกขี้หนูสับไว้
- ตั้งน้ำในหม้อตั้งไฟกลาง ใส่หัวกะทิสดลงไปคนให้เข้ากัน รอให้น้ำเดือด
- ใส่สาหร่ายสดลงไปผัดในกระทะ คนให้สุกและนิ่ม ใส่มะเขือเทศสีส้มลงไปผัดต่อจากนั้น
- ทำน้ำยำโดยใส่น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำปลาสำหรับผัด น้ำตาลทรายสีขาว พริกขี้หนูสับ และกระเทียมสับคนให้เข้ากัน
- เมื่อเสร็จสิ้นเมนูยำสาหร่ายทะเล ใส่ในชามเสิร์ฟพร้อมกับผักชีซอย รับประทานคู่กับขนมปังกรอบหรือข้าวเหนียวเสริฟ์สุดอร่อย
เมนูที่ 11: ผักกาดทอดน้ำปลา
ส่วนผสม:
- ผักกาด 1 หัว
- แป้งทอดกรอบ 1 ถ้วย
- น้ำปลาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทรายสีขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมสับ 3-4 กลีบ
ขั้นตอนการทำ:
- ล้างผักกาดให้สะอาดและหั่นให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ พร้อมทำแป้งทอดกรอบให้พร้อม
- ตั้งกระทะตั้งไฟกลาง ใส่น้ำมันสำหรับทอดให้ร้อน
- นำผักกาดไปหมักในน้ำปลาสำหรับผัดให้เข้ากัน และคนให้เข้ากันให้ดี
- นำผักกาดที่หมักแล้วไปพับในแป้งทอดกรอบให้ทั่ว และหมักอีกครั้งในน้ำปลาสำหรับผัด
- ตั้งกระทะที่มีน้ำมันสำหรับทอดร้อน ใส่ผักกาดที่หมักแป้งทอดกรอบลงไปทอดจนกรอบ และสุก ตักขึ้นพักไว้
- ซอสผัดน้ำปลาโดยใส่น้ำปลาสำหรับผัด น้ำตาลทรายสีขาว และกระเทียมสับคนให้เข้ากัน ปิดไฟและเสร็จสิ้นเมนูผักกาดทอดน้ำปลา รับประทานคู่กับข้าวสวยหรือข้าวเหนียวก็อร่อยไม่แพ้กัน
เมนูที่ 12: สลัดผักโขมและนมสด
ส่วนผสม:
- ผักโขมสด 1 ก้อน
- แครอท 1 หัว
- มะเขือเทศสีส้ม 1 ผล
- นมสด 1 ถ้วย
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทรายสีขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูสับ 1 เม็ด
- กระเทียมสับ 3-4 กลีบ
ขั้นตอนการทำ:
- ล้างและหั่นผักโขมให้ละเอียด และเตรียมแครอทให้หั่นเป็นชิ้น
- ซอยมะเขือเทศสีส้มให้ละเอียด และเตรียมกระเทียมสับและพริกขี้หนูสับไว้
- ตั้งน้ำในหม้อตั้งไฟกลาง ใส่น้ำมันสำหรับผัดให้ร้อน
- นำผักโขมไปหมักในนมสดให้เข้ากัน และคนให้เข้ากันให้ดี
- นำผักโขมที่หมักแล้วไปพับในแครอทให้ทั่ว และหมักอีกครั้งในนมสด
- ตั้งกระทะที่มีน้ำมันสำหรับผัดร้อน ใส่ผักโขมที่หมักแครอทลงไปทอดจนกรอบ และสุก ตักขึ้นพักไว้
- ซอสผัดโดยใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำปลาสำหรับผัด น้ำตาลทรายสีขาว และกระเทียมสับคนให้เข้ากัน ปิดไฟและเสร็จสิ้นเมนูสลัดผักโขมและนมสด รับประทานคู่กับขนมปังกรอบหรือข้าวเสริฟ์สุดอร่อย
เมนูที่ 13: ข้าวคลุกแกงเขียวหวานผักรวม
ส่วนผสม:
- ข้าวสวย 1 ถ้วย
- แกงเขียวหวานผักรวม 1 ถ้วย
- หัวกะทิสด 1 ถ้วย
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
- ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
- ต้นหอมซอย 1 ต้น
ขั้นตอนการทำ:
- ล้างข้าวสวยให้สะอาดและนำไปต้มในหม้อหุงข้าวตามปริมาณที่ต้องการ
- ตั้งกระทะตั้งไฟกลาง ใส่หัวกะทิสดลงไปคนให้เข้ากัน รอให้น้ำเดือด
- ใส่ข้าวสวยลงไปคนให้เข้ากันเรื่อย ๆ รอให้ข้าวสวยเริ่มเหนียวและนำมะกรูดฉีกและต้นหอมซอยลงไปคนให้เข้ากันดี
- ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและเกลือคนให้เข้ากัน ปิดไฟและเสร็จสิ้นเมนูข้าวคลุกแกงเขียวหวานผักรวม รับประทานคู่กับผลไม้สดหรืออาหารที่ชอบก็อร่อยไม่แพ้กัน
เมนูที่ 14: แกงจืดเห็ดฟางและต้นหอมซอย
ส่วนผสม:
- เห็ดฟางสด 200 กรัม
- ต้นหอมซอย 1 ต้น
- กระเทียมสับ 3-4 กลีบ
- พริกขี้หนูสับ 1 เม็ด
- น้ำปลาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทรายสีขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
ขั้นตอนการทำ:
- ล้างและหั่นเห็ดฟางให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ พร้อมซอยต้นหอมให้ละเอียด
- ตั้งกระทะตั้งไฟกลาง ใส่น้ำมันสำหรับผัดให้ร้อน
- นำเห็ดฟางไปหมักในน้ำปลาสำหรับผัดให้เข้ากัน และคนให้เข้ากันให้ดี
- นำเห็ดฟางที่หมักแล้วไปพับในต้นหอมซอยให้ทั่ว และคนให้เข้ากันให้ดี
- ตั้งกระทะที่มีน้ำมันสำหรับผัดร้อน ใส่เห็ดฟางที่หมักและต้นหอมซอยลงไปผัดจนเห็ดฟางสุกและนิ่ม ครอบจากนั้นใส่พริกขี้หนูสับลงไปผัดต่อ
- ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายสีขาวและน้ำปลาสำหรับผัดคนให้เข้ากัน ปิดไฟและเสร็จสิ้นเมนูแกงจืดเห็ดฟางและต้นหอมซอย รับประทานคู่กับข้าวสวยหรือข้าวกล้องก็อร่อยไม่แพ้กัน
เมนูที่ 15: ผัดไทยเจ
ส่วนผสม:
- เส้นเล็กขนาดเส้น 200 กรัม
- เต้าหู้แข็ง 100 กรัม
- แครอท 1 หัว
- ถั่วฝักยาว 100 กรัม
- ต้นหอมซอย 1 ต้น
- กระเทียมสับ 3-4 กลีบ
- น้ำมันหอยสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- มะนาว 1 ลูก
ขั้นตอนการทำ:
- ล้างเส้นเล็กให้สะอาดและนำไปต้มในน้ำเดือดจนสุก และเตรียมเส้นเล็กสำหรับผัดไทยเจไว้
- ล้างและหั่นเต้าหู้แข็งเป็นชิ้นเล็ก ๆ และเตรียมแครอทให้หั่นเป็นชิ้น
- ล้างถั่วฝักยาวให้สะอาดและหั่นเป็นชิ้นเตรียมไว้
- ซอยต้นหอมให้ละเอียด และเตรียมกระเทียมสับไว้
- ตั้งกระทะตั้งไฟกลาง ใส่น้ำมันหอยสำหรับผัดให้ร้อน
- ใส่กระเทียมสับลงไปผัดให้หอม และใส่เต้าหู้แข็งลงไปผัดต่อจากนั้นใส่แครอทและถั่วฝักยาวลงไปผัดจนสุก
- ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วขาว และน้ำปลาคนให้เข้ากัน ปิดไฟและเสร็จสิ้นเมนูผัดไทยเจ รับประทานคู่กับมะนาวหรือผักสดก็อร่อยไม่แพ้กัน
สรุป
อาหารวีแกนเป็นอาหารที่เติมเต็มด้วยส่วนประกอบที่มาจากพืช และเป็นที่นิยมในวงกว้างทั้งในกลุ่มคนที่รักธรรมชาติ ผู้ที่ต้องการลดการบริโภคเนื้อสัตว์ หรือคนที่มีสไตล์การกินอาหารพืช และสังคมโลกที่ก้าวเข้าสู่แนวทางความยั่งยืน ด้วยเส้นทางสุขภาพที่เปิดกว้างของอาหารวีแกน ความหลากหลายในเมนูและรสชาติที่อร่อยน่าตื่นเต้น ไม่แปลกที่อาหารวีแกนกลายเป็นที่นิยมและเป็นที่ต้องการของผู้คนที่ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เมนูที่มาจากเนื้อสัตว์ แต่ความอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วนก็ย่อมทำให้ผู้คนหันมาสนใจและค้นหาเมนูนี้อยู่เสมอครับ