อาหารวีแกน: สัญชาติอร่อยและสุขภาพที่มาพร้อมกัน

ในยุคที่ความสำเร็จและความเร่งด่วนของชีวิตทำให้เกิดภาวะเครียดและอาการทางร่างกายที่ไม่ดีขึ้นเรื่อยๆ การดูแลสุขภาพและการรักษาสมดุลของร่างกายเป็นสิ่งสำคัญที่ยิ่งใหญ่ เราควรให้ความสำคัญในการบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ เพื่อสร้างความสุขและสมดุลให้กับร่างกาย อาหารวีแกนเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจที่ควรคำนึงถึงในการดูแลสุขภาพของคุณ

Table of Contents

เมนูที่ 1: แกงเขียวหวานเห็ดฟาง

ส่วนผสม:

  • เห็ดฟาง 200 กรัม
  • มะเขือเทศ 1 ลูก
  • พริกชี้ฟ้า 2-3 เม็ด
  • ใบมะกรูด 5 ใบ
  • ขิงสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ตะไคร้สับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอยเกลือสำหรับทำเมนูเจ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทรายสีขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันมะกอกสำหรับทอด 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันรำข้าวสำหรับทอด 2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทรายสีขาว 1 ช้อนชา

ขั้นตอนการทำ:

  1. หั่นเห็ดฟางเป็นชิ้นเล็ก ๆ และเตรียมมะเขือเทศเป็นชิ้น ๆ พร้อมทำพริกชี้ฟ้าให้พอดี
  2. ใส่น้ำมันรำข้าวและน้ำมันมะกอกในกระทะทอด นำเห็ดฟางไปทอดจนกรอบ และให้สีทองเข้ม ตักขึ้นพักไว้
  3. ทำน้ำซุปโดยใส่น้ำให้เดือด และใส่ขิงสับ ตะไคร้สับ ใบมะกรูด น้ำมะขามเปียก น้ำปลาสำหรับผัด น้ำมันหอยเกลือสำหรับทำเมนูเจ และน้ำตาลทรายสีขาว คนให้เข้ากัน
  4. เมื่อน้ำซุปเดือด ใส่เห็ดฟางที่ทอดไว้ลงไป และใส่มะเขือเทศตามลงไปด้วย คนให้เข้ากันอีกครั้ง ตั้งไฟให้น้ำเดือด ใส่พริกชี้ฟ้าลงไป ปรุงรสด้วยเกลือและน้ำตาลทรายสีขาว
  5. เสร็จสิ้นเมนูแกงเขียวหวานเห็ดฟาง รับประทานคู่กับข้าวสวย หรือข้าวกล้องก็อร่อยไม่แพ้กัน

เมนูที่ 2: ผัดเผ็ดถั่วฝักยาวและข้าวโพด

ส่วนผสม:

  • ถั่วฝักยาว 200 กรัม
  • ข้าวโพดคุกก่อน 1 หู
  • หอมหัวใหญ่ซอย 1 หัว
  • พริกแดง 2 เม็ด
  • กระเทียมสับ 5-6 กลีบ
  • น้ำมันงาสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอยเกลือสำหรับเมนูเจ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำ:

  1. ล้างถั่วฝักยาวให้สะอาด และหั่นออกเส้นยาวประมาณ 2 นิ้ว ทำเช่นเดียวกับข้าวโพด
  2. ซอยหอมหัวใหญ่ พริกแดง และกระเทียมสับให้ละเอียด
  3. ใส่น้ำมันงาสำหรับผัดลงในกระทะ ตั้งไฟกลาง รอให้น้ำมันร้อน และใส่ส่วนผสมของหอมหัวใหญ่ พริกแดง และกระเทียมลงไปผัดให้หอม
  4. เมื่อส่วนผสมหอมหัวใหญ่ พริกแดง และกระเทียมสุกแล้ว ใส่ถั่วฝักยาวลงไปผัดให้สุก ใส่ข้าวโพดคุกก่อนลงไปผัดให้เข้ากัน
  5. ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำปลาสำหรับผัด คนให้เข้ากันให้เป็นอย่างดี ทิ้งไฟ และเสร็จสิ้นเมนูผัดเผ็ดถั่วฝักยาวและข้าวโพด
อ่านเพิ่มเติม  ยำขนมจีนปลาทูทอด เมนูสุดแซ่บ ทำยังไงให้อร่อย

เมนูที่ 3: ข้าวผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์

ส่วนผสม:

  • ข้าวสวย 1 ถ้วย
  • มะม่วงหิมพานต์สุก 1 ผล
  • หอมหัวใหญ่ 1 หัว
  • กระเทียมสับ 3-4 กลีบ
  • พริกแดงสับ 1 เม็ด
  • ถั่วฝักยาว 1 ถ้วย
  • น้ำมันสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอยเกลือสำหรับเมนูเจ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
  • มะนาว 1 ลูก
  • ถั่วงอก 1 ถ้วย

ขั้นตอนการทำ:

  1. ล้างและสะกดข้าวสวยให้แห้ง
  2. ซอยหอมหัวใหญ่ มะม่วงหิมพานต์ และกระเทียมสับให้ละเอียด
  3. ใส่น้ำมันสำหรับผัดในกระทะ ตั้งไฟกลาง รอให้น้ำมันร้อน และใส่ส่วนผสมของหอมหัวใหญ่ มะม่วงหิมพานต์ และกระเทียมสับลงไปผัดให้หอม
  4. เมื่อส่วนผสมหอมหัวใหญ่ มะม่วงหิมพานต์ และกระเทียมสุกแล้ว ใส่ข้าวสวยลงไปผัดให้เข้ากัน ใส่ถั่วงอกลงไปผัดต่อจากนั้น
  5. ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำปลาสำหรับผัด คนให้เข้ากันให้เป็นอย่างดี ใส่พริกแดงสับลงไป และบีบมะนาวลงไป คนให้เข้ากันอีกครั้ง
  6. เมื่อเสร็จสิ้นเมนูข้าวผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ใส่ในจานเสิร์ฟพร้อมกับผักสดหรือแซลฟ์เสริฟ์สุดอร่อย

เมนูที่ 4: สลัดผักบุ้งทอดเส้นใหญ่

ส่วนผสม:

  • เส้นใหญ่ 100 กรัม
  • ผักบุ้ง 1 มัด
  • แครอท 1 หัว
  • ถั่วงอก 1 ถ้วย
  • มะเขือเทศ 1 ลูก
  • กระเทียมสับ 3-4 กลีบ
  • พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
  • น้ำมันงาสำหรับทอด 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอยเกลือสำหรับเมนูเจ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำ:

  1. ล้างผักบุ้งให้สะอาด และหั่นเส้นยาวประมาณ 3 นิ้ว ทำเช่นเดียวกับแครอทและมะเขือเทศ
  2. ใส่น้ำมันงาสำหรับทอดในกระทะ ตั้งไฟกลาง รอให้น้ำมันร้อน และทอดเส้นใหญ่จนกรอบ และเริ่มเหลือง ตักขึ้นพักไว้
  3. ซอยแครอทให้เป็นเส้นบาง ๆ และแต่งกลีบดอกดาวเป็นรูปดอกจิก
  4. ทำน้ำยำโดยใส่น้ำมันหอยเกลือสำหรับเมนูเจ น้ำปลาสำหรับผัด น้ำตาลปี๊บ และพริกไทยป่น คนให้เข้ากันให้เป็นอย่างดี
  5. เมื่อเสร็จสิ้นทุกอย่าง ใส่ผักบุ้งและแครอทลงในชาม รวมถึงมะเขือเทศและถั่วงอกด้วย คลุกเคล้ากับน้ำยำที่เตรียมไว้
  6. นำเส้นใหญ่ที่ทอดไว้มาแต่งหน้าสลัดด้วย และเสิร์ฟพร้อมกับแครกน้ำยำที่เหลือไว้ รับประทานให้อร่อยคู่กับข้าวสวยหรือขนมปังอบกรอบ

เมนูที่ 5: แกงจืดเต้าหู้

ส่วนผสม:

  • เต้าหู้สด 200 กรัม
  • แครอท 1 หัว
  • ฟักทอง 1 ชิ้น
  • ถั่วงอก 1 ถ้วย
  • หน่อไม้ฝรั่ง 1 ก้อน
  • ใบชะพลูสด 1 กำ
  • กระเทียมสับ 3-4 กลีบ
  • พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
  • น้ำมันงาสำหรับทอด 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอยเกลือสำหรับเมนูเจ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำ:

  1. ล้างและหั่นเต้าหู้เป็นชิ้นเล็ก ๆ พร้อมเตรียมแครอทและฟักทองให้หั่นเป็นชิ้นเตรียมไว้ด้วย
  2. ซอยหน่อไม้ฝรั่งให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ และเตรียมใบชะพลูสดไว้
  3. ใส่น้ำมันงาสำหรับทอดในกระทะ ตั้งไฟกลาง รอให้น้ำมันร้อน และทอดเต้าหู้จนกรอบ และสุก ตักขึ้นพักไว้
  4. ใส่แครอทและฟักทองลงไปผัดในกระทะ คนให้สุกและนิ่ม ใส่ถั่วงอกและหน่อไม้ฝรั่งลงไปผัดต่อจากนั้น
  5. ทำน้ำซุปโดยใส่น้ำให้เดือด และใส่เต้าหู้ที่ทอดไว้ลงไป คนให้เข้ากัน ใส่ใบชะพลูสดลงไปในน้ำซุปด้วย
  6. ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำปลาสำหรับผัด คนให้เข้ากันให้เป็นอย่างดี ปิดไฟและเสร็จสิ้นเมนูแกงจืดเต้าหู้ รับประทานคู่กับข้าวสวยหรือข้าวเหนียวก็อร่อยไม่แพ้กัน

เมนูที่ 6: ข้าวคลุกแกงเขียวหวานเผือก

ส่วนผสม:

  • ข้าวเหนียว 1 ถ้วย
  • เผือกสด 1 ผล
  • กะทิ 1/2 ถ้วย
  • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • หัวกะทิสด 1 ถ้วย
  • แป้งข้าวเหนียว 1/4 ถ้วย
อ่านเพิ่มเติม  ต้มเส้นสปาเก็ตตี้ กี่นาที: เทคนิคการทำ, วัตถุดิบ, และวิธีเสิร์ฟที่อร่อยล้ำ

ขั้นตอนการทำ:

  1. ล้างข้าวเหนียวให้สะอาดและแช่น้ำให้น้ำซึมควรแช่น้ำไว้ประมาณ 6-8 ชม. หรือแช่ค้างคืนก็ได้
  2. นำเผือกสดมาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ เตรียมหัวกะทิสดและแป้งข้าวเหนียวไว้
  3. ตั้งน้ำในหม้อตั้งไฟกลาง ใส่หัวกะทิสดลงไปคนให้เข้ากัน รอให้น้ำเดือด
  4. ใส่ข้าวเหนียวลงไป คนให้เข้ากันเรื่อย ๆ รอให้ข้าวเหนียวสุกและน้ำกะทิหนืดเป็นแบบข้น ๆ ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและเกลือคนให้เข้ากัน
  5. ใส่เผือกสดลงไปและคนให้เข้ากัน ใส่กะทิเหลือทิ้งในหม้อลงไปคนให้เข้ากันให้ดี
  6. เมื่อข้าวคลุกแกงเขียวหวานเผือกเริ่มเหนียวและหอมหวาน ให้ตักขึ้นใส่จาน รับประทานคู่กับผลไม้สดหรือถั่วแบบไทย

เมนูที่ 7: แกงส้มผักกาดหมู

ส่วนผสม:

  • กาดหมูสับ 200 กรัม
  • มะเขือเทศเขียว 2 ลูก
  • ต้นหอมซอย 1 ต้น
  • ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
  • ตะไคร้ซอย 2 ต้น
  • น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทรายสีขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูสับ 1 เม็ด

ขั้นตอนการทำ:

  1. ล้างและสับกาดหมูให้ละเอียด และเตรียมมะเขือเทศเขียวให้หั่นเป็นชิ้น
  2. ซอยต้นหอม ใบมะกรูด และตะไคร้ให้ละเอียด พร้อมทำพริกขี้หนูสับให้ละเอียดเตรียมไว้
  3. ตั้งน้ำในหม้อตั้งไฟกลาง ใส่กาดหมูลงไปคนให้สุกและนิ่ม ใส่มะเขือเทศเขียวลงไปผัดต่อจากนั้น
  4. ทำน้ำซุปโดยใส่น้ำให้เดือด และใส่ต้นหอม ใบมะกรูด และตะไคร้ซอยลงไปคนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลาสำหรับผัด น้ำตาลปี๊บ และน้ำตาลทรายสีขาว
  5. เมื่อเสร็จสิ้นเมนูแกงส้มผักกาดหมู ใส่ในชามเสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวยหรือข้าวกล้องก็อร่อยไม่แพ้กัน

เมนูที่ 8: แกงเห็ดหนุ่มผัดตำลึง

ส่วนผสม:

  • เห็ดหนุ่ม 200 กรัม
  • ตำลึงสด 1 ก้อน
  • หัวกะทิสด 1 ถ้วย
  • น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทรายสีขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูสับ 1 เม็ด
  • กระเทียมสับ 3-4 กลีบ
  • ต้นหอมซอย 1 ต้น

ขั้นตอนการทำ:

  1. ล้างและหั่นเห็ดหนุ่มเป็นชิ้นเล็ก ๆ พร้อมทำตำลึงสดให้เป็นเส้นบาง ๆ
  2. ซอยต้นหอมให้ละเอียด และเตรียมพริกขี้หนูสับและกระเทียมสับไว้
  3. ตั้งน้ำในหม้อตั้งไฟกลาง ใส่หัวกะทิสดลงไปคนให้เข้ากัน รอให้น้ำเดือด
  4. ใส่เห็ดหนุ่มลงไปผัดในกระทะ คนให้สุกและนิ่ม ใส่ตำลึงสดลงไปผัดต่อจากนั้น
  5. ทำน้ำซุปโดยใส่น้ำให้เดือด และใส่ต้นหอมซอย พริกขี้หนูสับ น้ำมะขามเปียก น้ำปลาสำหรับผัด น้ำตาลปี๊บ และน้ำตาลทรายสีขาวคนให้เข้ากัน
  6. เมื่อเสร็จสิ้นเมนูแกงเห็ดหนุ่มผัดตำลึง ใส่ในชามเสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวยหรือข้าวกล้อง รับประทานคู่กับผักสดหรือแซลฟ์เสริฟ์เสร็จ

เมนูที่ 9: พาสต้าเบอร์รีเม็ดสลัด

ส่วนผสม:

  • พาสต้าเบอร์รีเม็ด 200 กรัม
  • แตงกวา 1 ชิ้น
  • มะเขือเทศแดง 1 ผล
  • หัวกระทิสด 1 ถ้วย
  • น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทรายสีขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูสับ 1 เม็ด
  • กระเทียมสับ 3-4 กลีบ
  • ผักชีซอย 1 กำ

ขั้นตอนการทำ:

  1. ล้างและหั่นพาสต้าเบอร์รีเม็ดให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ และเตรียมแตงกวาให้หั่นเป็นชิ้น
  2. ซอยมะเขือเทศแดงให้ละเอียด และเตรียมกระเทียมสับและพริกขี้หนูสับไว้
  3. ตั้งน้ำในหม้อตั้งไฟกลาง ใส่หัวกะทิสดลงไปคนให้เข้ากัน รอให้น้ำเดือด
  4. ใส่พาสต้าเบอร์รีเม็ดลงไปคนให้สุกและนิ่ม ใส่แตงกวาลงไปผัดต่อจากนั้น
  5. ทำน้ำซุปโดยใส่น้ำให้เดือด และใส่มะเขือเทศแดง น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำปลาสำหรับผัด น้ำตาลทรายสีขาว พริกขี้หนูสับ และกระเทียมสับคนให้เข้ากัน
  6. เมื่อเสร็จสิ้นเมนูพาสต้าเบอร์รีเม็ดสลัด ใส่ในชามเสิร์ฟพร้อมกับผักชีซอย รับประทานคู่กับแซลฟ์เสริฟ์เสร็จ
อ่านเพิ่มเติม  15 เมนูเต้าหู้ ทำ อาหาร เจ อร่อย คลีน เสริมสุขภาพ | สูตรอาหารเต้าหู้

เมนูที่ 10: ยำสาหร่ายทะเล

ส่วนผสม:

  • สาหร่ายสด 200 กรัม
  • มะเขือเทศสีส้ม 1 ผล
  • หัวกะทิสด 1 ถ้วย
  • น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทรายสีขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูสับ 1 เม็ด
  • กระเทียมสับ 3-4 กลีบ
  • ผักชีซอย 1 กำ

ขั้นตอนการทำ:

  1. ล้างและสับสาหร่ายให้ละเอียด และเตรียมมะเขือเทศสีส้มให้หั่นเป็นชิ้น
  2. ซอยหัวกะทิให้ละเอียด และเตรียมกระเทียมสับและพริกขี้หนูสับไว้
  3. ตั้งน้ำในหม้อตั้งไฟกลาง ใส่หัวกะทิสดลงไปคนให้เข้ากัน รอให้น้ำเดือด
  4. ใส่สาหร่ายสดลงไปผัดในกระทะ คนให้สุกและนิ่ม ใส่มะเขือเทศสีส้มลงไปผัดต่อจากนั้น
  5. ทำน้ำยำโดยใส่น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำปลาสำหรับผัด น้ำตาลทรายสีขาว พริกขี้หนูสับ และกระเทียมสับคนให้เข้ากัน
  6. เมื่อเสร็จสิ้นเมนูยำสาหร่ายทะเล ใส่ในชามเสิร์ฟพร้อมกับผักชีซอย รับประทานคู่กับขนมปังกรอบหรือข้าวเหนียวเสริฟ์สุดอร่อย

เมนูที่ 11: ผักกาดทอดน้ำปลา

ส่วนผสม:

  • ผักกาด 1 หัว
  • แป้งทอดกรอบ 1 ถ้วย
  • น้ำปลาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทรายสีขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมสับ 3-4 กลีบ

ขั้นตอนการทำ:

  1. ล้างผักกาดให้สะอาดและหั่นให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ พร้อมทำแป้งทอดกรอบให้พร้อม
  2. ตั้งกระทะตั้งไฟกลาง ใส่น้ำมันสำหรับทอดให้ร้อน
  3. นำผักกาดไปหมักในน้ำปลาสำหรับผัดให้เข้ากัน และคนให้เข้ากันให้ดี
  4. นำผักกาดที่หมักแล้วไปพับในแป้งทอดกรอบให้ทั่ว และหมักอีกครั้งในน้ำปลาสำหรับผัด
  5. ตั้งกระทะที่มีน้ำมันสำหรับทอดร้อน ใส่ผักกาดที่หมักแป้งทอดกรอบลงไปทอดจนกรอบ และสุก ตักขึ้นพักไว้
  6. ซอสผัดน้ำปลาโดยใส่น้ำปลาสำหรับผัด น้ำตาลทรายสีขาว และกระเทียมสับคนให้เข้ากัน ปิดไฟและเสร็จสิ้นเมนูผักกาดทอดน้ำปลา รับประทานคู่กับข้าวสวยหรือข้าวเหนียวก็อร่อยไม่แพ้กัน

เมนูที่ 12: สลัดผักโขมและนมสด

ส่วนผสม:

  • ผักโขมสด 1 ก้อน
  • แครอท 1 หัว
  • มะเขือเทศสีส้ม 1 ผล
  • นมสด 1 ถ้วย
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทรายสีขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูสับ 1 เม็ด
  • กระเทียมสับ 3-4 กลีบ

ขั้นตอนการทำ:

  1. ล้างและหั่นผักโขมให้ละเอียด และเตรียมแครอทให้หั่นเป็นชิ้น
  2. ซอยมะเขือเทศสีส้มให้ละเอียด และเตรียมกระเทียมสับและพริกขี้หนูสับไว้
  3. ตั้งน้ำในหม้อตั้งไฟกลาง ใส่น้ำมันสำหรับผัดให้ร้อน
  4. นำผักโขมไปหมักในนมสดให้เข้ากัน และคนให้เข้ากันให้ดี
  5. นำผักโขมที่หมักแล้วไปพับในแครอทให้ทั่ว และหมักอีกครั้งในนมสด
  6. ตั้งกระทะที่มีน้ำมันสำหรับผัดร้อน ใส่ผักโขมที่หมักแครอทลงไปทอดจนกรอบ และสุก ตักขึ้นพักไว้
  7. ซอสผัดโดยใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำปลาสำหรับผัด น้ำตาลทรายสีขาว และกระเทียมสับคนให้เข้ากัน ปิดไฟและเสร็จสิ้นเมนูสลัดผักโขมและนมสด รับประทานคู่กับขนมปังกรอบหรือข้าวเสริฟ์สุดอร่อย

เมนูที่ 13: ข้าวคลุกแกงเขียวหวานผักรวม

ส่วนผสม:

  • ข้าวสวย 1 ถ้วย
  • แกงเขียวหวานผักรวม 1 ถ้วย
  • หัวกะทิสด 1 ถ้วย
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
  • ต้นหอมซอย 1 ต้น

ขั้นตอนการทำ:

  1. ล้างข้าวสวยให้สะอาดและนำไปต้มในหม้อหุงข้าวตามปริมาณที่ต้องการ
  2. ตั้งกระทะตั้งไฟกลาง ใส่หัวกะทิสดลงไปคนให้เข้ากัน รอให้น้ำเดือด
  3. ใส่ข้าวสวยลงไปคนให้เข้ากันเรื่อย ๆ รอให้ข้าวสวยเริ่มเหนียวและนำมะกรูดฉีกและต้นหอมซอยลงไปคนให้เข้ากันดี
  4. ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและเกลือคนให้เข้ากัน ปิดไฟและเสร็จสิ้นเมนูข้าวคลุกแกงเขียวหวานผักรวม รับประทานคู่กับผลไม้สดหรืออาหารที่ชอบก็อร่อยไม่แพ้กัน

เมนูที่ 14: แกงจืดเห็ดฟางและต้นหอมซอย

ส่วนผสม:

  • เห็ดฟางสด 200 กรัม
  • ต้นหอมซอย 1 ต้น
  • กระเทียมสับ 3-4 กลีบ
  • พริกขี้หนูสับ 1 เม็ด
  • น้ำปลาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทรายสีขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ

ขั้นตอนการทำ:

  1. ล้างและหั่นเห็ดฟางให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ พร้อมซอยต้นหอมให้ละเอียด
  2. ตั้งกระทะตั้งไฟกลาง ใส่น้ำมันสำหรับผัดให้ร้อน
  3. นำเห็ดฟางไปหมักในน้ำปลาสำหรับผัดให้เข้ากัน และคนให้เข้ากันให้ดี
  4. นำเห็ดฟางที่หมักแล้วไปพับในต้นหอมซอยให้ทั่ว และคนให้เข้ากันให้ดี
  5. ตั้งกระทะที่มีน้ำมันสำหรับผัดร้อน ใส่เห็ดฟางที่หมักและต้นหอมซอยลงไปผัดจนเห็ดฟางสุกและนิ่ม ครอบจากนั้นใส่พริกขี้หนูสับลงไปผัดต่อ
  6. ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายสีขาวและน้ำปลาสำหรับผัดคนให้เข้ากัน ปิดไฟและเสร็จสิ้นเมนูแกงจืดเห็ดฟางและต้นหอมซอย รับประทานคู่กับข้าวสวยหรือข้าวกล้องก็อร่อยไม่แพ้กัน

เมนูที่ 15: ผัดไทยเจ

ส่วนผสม:

  • เส้นเล็กขนาดเส้น 200 กรัม
  • เต้าหู้แข็ง 100 กรัม
  • แครอท 1 หัว
  • ถั่วฝักยาว 100 กรัม
  • ต้นหอมซอย 1 ต้น
  • กระเทียมสับ 3-4 กลีบ
  • น้ำมันหอยสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • มะนาว 1 ลูก

ขั้นตอนการทำ:

  1. ล้างเส้นเล็กให้สะอาดและนำไปต้มในน้ำเดือดจนสุก และเตรียมเส้นเล็กสำหรับผัดไทยเจไว้
  2. ล้างและหั่นเต้าหู้แข็งเป็นชิ้นเล็ก ๆ และเตรียมแครอทให้หั่นเป็นชิ้น
  3. ล้างถั่วฝักยาวให้สะอาดและหั่นเป็นชิ้นเตรียมไว้
  4. ซอยต้นหอมให้ละเอียด และเตรียมกระเทียมสับไว้
  5. ตั้งกระทะตั้งไฟกลาง ใส่น้ำมันหอยสำหรับผัดให้ร้อน
  6. ใส่กระเทียมสับลงไปผัดให้หอม และใส่เต้าหู้แข็งลงไปผัดต่อจากนั้นใส่แครอทและถั่วฝักยาวลงไปผัดจนสุก
  7. ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วขาว และน้ำปลาคนให้เข้ากัน ปิดไฟและเสร็จสิ้นเมนูผัดไทยเจ รับประทานคู่กับมะนาวหรือผักสดก็อร่อยไม่แพ้กัน

สรุป

อาหารวีแกนเป็นอาหารที่เติมเต็มด้วยส่วนประกอบที่มาจากพืช และเป็นที่นิยมในวงกว้างทั้งในกลุ่มคนที่รักธรรมชาติ ผู้ที่ต้องการลดการบริโภคเนื้อสัตว์ หรือคนที่มีสไตล์การกินอาหารพืช และสังคมโลกที่ก้าวเข้าสู่แนวทางความยั่งยืน ด้วยเส้นทางสุขภาพที่เปิดกว้างของอาหารวีแกน ความหลากหลายในเมนูและรสชาติที่อร่อยน่าตื่นเต้น ไม่แปลกที่อาหารวีแกนกลายเป็นที่นิยมและเป็นที่ต้องการของผู้คนที่ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เมนูที่มาจากเนื้อสัตว์ แต่ความอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วนก็ย่อมทำให้ผู้คนหันมาสนใจและค้นหาเมนูนี้อยู่เสมอครับ