15 อาหาร เจ ทอด: ความอร่อยที่มาพร้อมความบริสุทธิ์

ในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา อาหารเจ กลับมาเป็นที่นิยมในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ต้องการรับประทานอาหารเจเพื่อเพิ่มพลังงานหรือผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก อาหารเจทอดเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ให้ความอร่อยและเสริมสร้างสุขภาพได้อย่างดี ในบทความนี้เราจะสำรวจถึง “15 อาหาร เจ ทอด” ที่มีความอร่อยและคุ้มค่าในทุกมื้อ จากที่ทำความรู้จักกันในวงกว้างมากขึ้น มาเริ่มต้นสั่งทานกันเลย!

Table of Contents

เมนูที่ 1: ขนมกล้วยไข่

ส่วนผสม:

  • กล้วยหอมสุก 5 ผล
  • แป้งสาลี 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ:

  1. ล้างกล้วยให้สะอาดและผลัดเปลือกออก ใช้มีดผ่าตัดเส้นยาวขนานกับกล้วยเพื่อให้ไข่และแป้งเกาะติดกันได้ดี
  2. คั่วแป้งสาลีในกระทะให้เกิดกลิ่นหอม และใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้เข้ากันและเป็นเนื้อเดียวกัน
  3. ผสมไข่เข้ากับแป้งที่คั่วแล้ว คนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน และคลุกกล้วยด้วยผสมน้ำมันพืชให้ทั่ว
  4. เมื่อน้ำมันในกระทะร้อนแล้ว ให้ใส่กล้วยที่คลุกแป้งลงไปในน้ำมัน ทอดให้สุกทั้งสองด้าน โดยใช้ไฟอ่อนกลาง
  5. เมื่อขนมกล้วยไข่สุกแล้ว ตักขึ้นให้สะอาด พร้อมเสิร์ฟ

เมนูที่ 2: ผัดพริกขี้หนูเจ

ส่วนผสม:

  • พริกขี้หนูสีแดง 10 เม็ด
  • หอมหัวใหญ่ซอย 3 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงาสำหรับผัด

วิธีทำ:

  1. นำพริกขี้หนูไปล้างให้สะอาดและหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
  2. เริ่มทำน้ำพริก โดยใช้มือหั่นหอมหัวใหญ่ซอย กระเทียมสับ ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย และน้ำมันงา คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  3. ใช้กระทะใส่น้ำพริกที่ทำขึ้นลงไป และผัดพริกจนหอม และเครื่องเคียงเข้ากัน
  4. เมื่อพริกและเครื่องเคียงสุกแล้ว ตักขึ้นใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

เมนูที่ 3: แกงเขียวหวานเจ

ส่วนผสม:

  • ฟักทองหั่นเป็นชิ้น 1 ถ้วย
  • ถั่วฝักยาวหั่นเป็นชิ้น 1 ถ้วย
  • แครอทหั่นเป็นชิ้น 1/2 ถ้วย
  • หน่อไม้หั่นเป็นชิ้น 1/2 ถ้วย
  • ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกขี้หนูสีแดงซอย 1 เม็ด
  • ใบมะกรูด 5 ใบ
  • น้ำมันกากน้ำปาล์ม 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกชี้ฟ้าแห้งบด 1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ:

  1. เริ่มทำแกงเขียวหวาน โดยใช้กระทะใส่น้ำมันกากน้ำปาล์มและน้ำมันงา คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  2. นำฟักทอง ถั่วฝักยาว แครอท และหน่อไม้ลงไปผัดจนสุก และใส่น้ำให้เคลือบผักที่ผัด
  3. ใส่ใบมะกรูด พริกขี้หนู และต้นหอม คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  4. ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะนาวและพริกชี้ฟ้าแห้งบด คลุกเคล้าให้เข้ากัน และตักขึ้นใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ

เมนูที่ 4: ข้าวผัดเจ

ส่วนผสม:

  • ข้าวสวย 2 ถ้วย
  • หอมหัวใหญ่ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • หมูสับเนื้อบด 1/2 ถ้วย
  • ถั่วฝักยาวหั่นเป็นชิ้น 1/2 ถ้วย
  • แครอทหั่นเป็นชิ้น 1/2 ถ้วย
  • ฟักทองหั่นเป็นชิ้น 1/2 ถ้วย
  • ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงาสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ:

  1. เริ่มทำข้าวผัดเจ โดยใช้กระทะใส่น้ำมันงา นำหอมหัวใหญ่ซอยและกระเทียมสับลงไปผัดจนหอม
  2. ใส่หมูสับเนื้อบดลงไปผัดจนสุก และใส่แครอท ถั่วฝักยาว และฟักทองลงไปผัดกับหอมหัวใหญ่และกระเทียมในกระทะ
  3. ใส่ข้าวสวยลงไปผัดให้เข้ากับส่วนผสมทั้งหมด และเติมซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  4. ตักข้าวผัดเจขึ้นใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

เมนูที่ 5: แกงจืดเส้นมาม่าเจ

ส่วนผสม:

  • เส้นมาม่า 1 ก้อน
  • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
  • หอมหัวใหญ่ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • เส้นเหนียวหมี่แห้ง 1 ถ้วย
  • เส้นก๋วยเตี๋ยวเหนียว 1 ถ้วย
  • กระดูกอ่อนเต้าหู้ทอด 1 ชิ้น
  • แครอทหั่นเป็นชิ้น 1/2 ถ้วย
  • ฟักทองหั่นเป็นชิ้น 1/2 ถ้วย
  • ผักกาดเจียว 1 ถ้วย
  • เห็ดหอมหั่นเป็นชิ้น 1/2 ถ้วย
  • ถั่วงอกหั่นเป็นชิ้น 1/2 ถ้วย
  • แกงจืดเส้นมาม่าเจ 1 ถ้วย

วิธีทำ:

  1. เริ่มทำแกงจืดเส้นมาม่าเจ โดยใช้กระทะใส่น้ำมันงา นำหอมหัวใหญ่ซอยและกระเทียมสับลงไปผัดจนหอม
  2. ใส่แกงจืดเส้นมาม่าเจและน้ำมันกะทิลงในกระทะ คนให้เข้ากันและให้เดือด
  3. ใส่เส้นเหนียวหมี่แห้ง และเส้นก๋วยเตี๋ยวเหนียวลงในแกงจืด คนให้เกาะกับน้ำ
  4. ใส่กระดูกอ่อนเต้าหู้ทอด แครอท ฟักทอง ผักกาดเจียว เห็ดหอม และถั่วงอกลงในกระทะ คนให้เข้ากัน
  5. เมื่อเส้นเหนียวหมี่แห้งและเส้นก๋วยเตี๋ยวเหนียวสุก ตักขึ้นใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

เมนูที่ 6: ผัดถั่วงอกเจ

ส่วนผสม:

  • ถั่วงอก 1 ถ้วย
  • หอมหัวใหญ่ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ:

  1. เริ่มทำผัดถั่วงอกเจ โดยใช้กระทะใส่น้ำมันงา นำหอมหัวใหญ่ซอยและกระเทียมสับลงไปผัดจนหอม
  2. ใส่ถั่วงอกลงในกระทะและผัดจนสุก และใส่ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และน้ำปลาลงไปผัดกับถั่วงอก
  3. คนให้เข้ากันให้เข้ากัน และตักขึ้นใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

เมนูที่ 7: ขนมจีนน้ำเงี้ยวเจ

ส่วนผสม:

  • สาหร่ายเจ 1 ถ้วย
  • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำจิ้ม 1/2 ถ้วย
  • เส้นหมี่ขนมจีน 1 ก้อน

วิธีทำ:

  1. เริ่มทำขนมจีนน้ำเงี้ยวเจ โดยใช้กระทะใส่น้ำมันงา นำสาหร่ายเจลงไปผัดจนสุก
  2. ใส่ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และน้ำปลาลงไปผัดกับสาหร่ายเจ
  3. คนให้เข้ากันให้เข้ากัน และใส่น้ำจิ้มลงในกระทะ คนให้เข้ากัน
  4. ใส่เส้นหมี่ขนมจีนลงไปผัดกับน้ำเงี้ยว คนให้เกาะกับน้ำ
  5. เมื่อเส้นหมี่ขนมจีนสุก ตักขึ้นใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

เมนูที่ 8: กะหล่ำปลีผัดเจ

ส่วนผสม:

  • กะหล่ำปลีหั่นเป็นชิ้น 1 ถ้วย
  • หอมหัวใหญ่ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ:

  1. เริ่มทำกะหล่ำปลีผัดเจ โดยใช้กระทะใส่น้ำมันงา นำหอมหัวใหญ่ซอยและกระเทียมสับลงไปผัดจนหอม
  2. ใส่กะหล่ำปลีลงในกระทะและผัดจนสุก และใส่ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และน้ำปลาลงไปผัดกับกะหล่ำปลี
  3. คนให้เข้ากันให้เข้ากัน และตักขึ้นใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

เมนูที่ 9: แกงจืดไข่เจ

ส่วนผสม:

  • หน่อไม้หั่นเป็นชิ้น 1 ถ้วย
  • แครอทหั่นเป็นชิ้น 1/2 ถ้วย
  • ฟักทองหั่นเป็นชิ้น 1/2 ถ้วย
  • เห็ดหอมหั่นเป็นชิ้น 1/2 ถ้วย
  • กะหล่ำปลีหั่นเป็นชิ้น 1/2 ถ้วย
  • ผักกาดเจียว 1 ถ้วย
  • ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันกากน้ำปาล์ม 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกชี้ฟ้าแห้งบด 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ไข่เจ 2 ฟอง

วิธีทำ:

  1. เริ่มทำแกงจืดไข่เจ โดยใช้กระทะใส่น้ำมันกากน้ำปาล์มและน้ำมันงา คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  2. นำหน่อไม้ แครอท ฟักทอง เห็ดหอม กะหล่ำปลี และผักกาดเจียวลงในกระทะ คนให้เข้ากับน้ำมัน
  3. ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะนาว และพริกชี้ฟ้าแห้งบดลงในกระทะ คนให้เข้ากับส่วนผสมทั้งหมด
  4. เมื่อส่วนผสมสุก ใส่ไข่เจลงในกระทะ และคนให้เข้ากับส่วนผสมในกระทะ
  5. เมื่อไข่เจสุกแล้ว ตักขึ้นใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

เมนูที่ 10: ขนมทอดกล้วยหอมเจ

ส่วนผสม:

  • กล้วยหอมสุก 5 ผล
  • แป้งสาลี 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ:

  1. ล้างกล้วยให้สะอาดและผลัดเปลือกออก ใช้มีดผ่าตัดเส้นยาวขนานกับกล้วยเพื่อให้ไข่และแป้งเกาะติดกันได้ดี
  2. คั่วแป้งสาลีในกระทะให้เกิดกลิ่นหอม และใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้เข้ากันและเป็นเนื้อเดียวกัน
  3. ผสมไข่เข้ากับแป้งที่คั่วแล้ว คนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน และคลุกกล้วยด้วยผสมน้ำมันพืชให้ทั่ว
  4. เมื่อน้ำมันในกระทะร้อนแล้ว ให้ใส่กล้วยที่คลุกแป้งลงไปในน้ำมัน ทอดให้สุกทั้งสองด้าน โดยใช้ไฟอ่อนกลาง
  5. เมื่อขนมทอดกล้วยหอมเจสุกแล้ว ตักขึ้นให้สะอาด พร้อมเสิร์ฟ

เมนูที่ 11: ผักกาดห่อหมกเจ

ส่วนผสม:

  • ผักกาดห่อ 5 ใบ
  • เห็ดหอมหั่นเป็นชิ้น 1/2 ถ้วย
  • แครอทหั่นเป็นชิ้น 1/2 ถ้วย
  • ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันกากน้ำปาล์ม 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันงาสำหรับผัด 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ:

  1. เริ่มทำผักกาดห่อหมกเจ โดยใช้กระทะใส่น้ำมันกากน้ำปาล์มและน้ำมันงา คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  2. นำผักกาดห่อลงในกระทะและผัดจนสุก และใส่เห็ดหอม แครอท และต้นหอมซอยลงไปผัดกับผักกาดห่อ
  3. ใส่ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส น้ำตาลทราย และน้ำปลาลงในกระทะ คนให้เข้ากับส่วนผสมทั้งหมด
  4. เมื่อส่วนผสมสุก ตักขึ้นใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

เมนูที่ 12: ผักกาดแกงเขียวหวานเจ

ส่วนผสม:

  • ฟักทองหั่นเป็นชิ้น 1 ถ้วย
  • ถั่วลูกเขยหั่นเป็นชิ้น 1/2 ถ้วย
  • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกชี้ฟ้าแห้งบด 1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ:

  1. เริ่มทำผักกาดแกงเขียวหวานเจ โดยใช้กระทะใส่น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และพริกชี้ฟ้าแห้งบด คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  2. ใส่ฟักทองลงในกระทะและผัดจนสุก และใส่ถั่วลูกเขยลงไปผัดกับฟักทอง
  3. คนให้เข้ากันให้เข้ากัน และตักขึ้นใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

เมนูที่ 13: สลัดแกงเขียวหวานเจ

ส่วนผสม:

  • ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • แครอทหั่นเป็นชิ้น 1/2 ถ้วย
  • ฟักทองหั่นเป็นชิ้น 1/2 ถ้วย
  • ผักกาดเจียว 1 ถ้วย
  • เห็ดหอมหั่นเป็นชิ้น 1/2 ถ้วย
  • ถั่วงอกหั่นเป็นชิ้น 1/2 ถ้วย
  • มะเขือเทศหั่นเป็นชิ้น 1/2 ถ้วย
  • พริกชี้ฟ้าแห้งบด 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1/4 ถ้วย
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ:

  1. เริ่มทำสลัดแกงเขียวหวานเจ โดยใช้ชามใส่น้ำมะนาวและน้ำปลา คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  2. ใส่ต้นหอม แครอท ฟักทอง ผักกาดเจียว เห็ดหอม ถั่วงอก และมะเขือเทศลงในชาม คลุกเคล้าให้เข้ากับน้ำมะนาวและน้ำปลา
  3. โรยพริกชี้ฟ้าแห้งบดลงบนสลัดและคลุกเคล้าให้เข้ากัน
  4. เมื่อสลัดแกงเขียวหวานเจพร้อมสำหรับรับประทาน ตักใส่จานและเสิร์ฟ

เมนูที่ 14: ขนมถั่วงอกกล้วยหอมเจ

ส่วนผสม:

  • ถั่วงอก 1 ถ้วย
  • แป้งสาลี 1/2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  • น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำ:

  1. เริ่มทำขนมถั่วงอกกล้วยหอมเจ โดยใช้ชามใส่แป้งสาลีและน้ำตาลทราย คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  2. ใส่ถั่วงอกลงในชามที่มีแป้งคลุก คลุกให้ถั่วงอกเกาะกับแป้งทั้งสองด้าน
  3. เมื่อน้ำมันในกระทะร้อนแล้ว ให้ใส่ถั่วงอกที่คลุกแป้งลงไปในน้ำมัน ทอดให้สุกทั้งสองด้าน โดยใช้ไฟอ่อนกลาง
  4. เมื่อขนมถั่วงอกกล้วยหอมเจสุกแล้ว ตักขึ้นให้สะอาด พร้อมเสิร์ฟ

เมนูที่ 15: ข้าวเหนียวเผือกเจ

ส่วนผสม:

  • ข้าวเหนียว 1 ถ้วย
  • เผือกสับ 1/2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
  • เกลือป่น 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ:

  1. เริ่มทำข้าวเหนียวเผือกเจ โดยใช้กระทะใส่ข้าวเหนียว น้ำตาลทราย และเกลือป่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  2. ใส่เผือกสับลงในกระทะและคลุกเคล้าให้เผือกเกาะกับข้าวเหนียว
  3. นำข้าวเหนียวเผือกลงในภาชนะเหมาะสม ทอดในน้ำมันร้อนโดยใช้ไฟอ่อนกลาง
  4. เมื่อข้าวเหนียวเผือกสุกแล้ว ตักขึ้นใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

สรุป

สรุปเมื่อพิจารณาถึง “15 อาหาร เจ ทอด” ที่ได้นำเสนอมาให้รู้จักในบทความนี้ ไม่ต้องสงสัยว่าอาหารเจทอดนั้นเป็นตัวแทนอาหารเจที่อร่อยและยอดนิยมที่ควรลองในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเมนูของหวานหรืออาหารคาว มีทั้งเส้นเหนียวหมี่แห้งทอดกรอบ ผัดถั่วงอกเจ หรือแกงจืดไข่เจ ที่สามารถให้รสชาติอร่อยหมู่คณะคนไทยทั้งที่เป็นผู้ที่รักในอาหารมังสวิรัติและเจ การสร้างสรรค์เมนูเหล่านี้ให้กลายเป็นเมนูอร่อยเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในการสำรวจความอร่อยของอาหารเจ ที่เต็มไปด้วยรสชาติและความคาวกรอบ หวานนุ่มนวล หรือกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ไม่สามารถหาได้ในเมนูอาหารอื่นๆ จึงเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสอาหารเจทอดความอร่อยที่เข้ากันได้อย่างลงตัวและเปิดโอกาสในการสำรวจความคุ้นเคยและหลากหลายของวัฒนธรรมอาหารที่เป็นส่วนหนึ่งของอิสระทางความคิดและความเชื่อของคนไทยกันอย่างแท้จริง