เที่ยวฮานอย เวียดนาม 2023 ฮานอย เมืองหลวงโบราณ 1000 ปี

เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวในเวียดนาม ห้ามพลาดที่จะกล่าวถึงเมืองฮานอย ซึ่งเป็นเมืองหลวงและเมืองประวัติศาสตร์สำคัญของประเทศเวียดนาม ในปี 2023 นี้ ฮานอยจะถูกเปิดให้เที่ยวชมและสำรวจประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่มากถึง 1000 ปี โดยจะมีสถานที่สำคัญที่น่าสนใจอย่างมากให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าตื่นเต้น

Table of Contents

ประวัติและสถานที่สำคัญของฮานอย

ท็อป 20 ที่เที่ยวยอดนิยมในฮานอย ปี 2023

ฮานอยเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยวทั่วโลก มีองค์ประกอบทางวัฒนธรรมที่น่าทึ่ง ตั้งอยู่บนเทือกเขาเหนือของเวียดนาม และเป็นแหล่งรวมวัดสวยงามและวัตถุมงคลที่มีความสำคัญในศาสนาพุทธ สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนฮานอยคือวัดชูชีพญาณ (Temple of Literature) ที่เป็นศูนย์กลางการศึกษาและศาสนาของเวียดนาม และพระบรมมหาราชวังฮัยฮองคง (Imperial Citadel of Thang Long) ที่เป็นอุโบสถที่สำคัญในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเวียดนาม

การเดินทางไปฮานอย

รีวิว ฮานอย (Hanoi) x เวียดนาม เที่ยวครบใน 3 วัน – HASHCORNER

เพื่อเดินทางไปยังเมืองฮานอย นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางโดยทางอากาศไปยังสนามบินฮานอย หรือเดินทางโดยรถบัสหรือรถไฟจากเมืองใกล้เคียง การเดินทางทางบกอาจใช้เวลานานกว่า แต่จะให้โอกาสในการเพลิดเพลินกับวิวธรรมชาติที่สวยงามของเวียดนาม

ที่พักและร้านอาหารในฮานอย

เที่ยวฮานอย ชม 15 ที่เที่ยวในเมืองหลวงแห่งเวียดนาม

ในฮานอยมีที่พักและร้านอาหารที่หลากหลายให้เลือก ตั้งแต่โรงแรมระดับห้าดาวที่ให้บริการคุณภาพสูง จนถึงบ้านพักแบบโฮมสเตย์ที่อบอุ่นและเป็นกันเอง นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์ทานอาหารชุดดั้งเดิมของเวียดนามได้

กิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยว

15 ที่เที่ยวฮานอย 2023 เวียดนาม ทริปใกล้บ้าน [มิถุนายน 2023]

การท่องเที่ยวในฮานอยนั้นไม่จำกัดเพียงแค่เพียงการเยือนวัดและสถานที่ประวัติศาสตร์เท่านั้น นักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมที่น่าสนใจต่างๆ เช่น การทดลองสวมใส่เสื้อคู่ (ao dai) คือชุดแบบดั้งเดิมของเวียดนาม หรือการเรียนรู้ศิลปะการเคลื่อนไหวของเวียดนามที่สถาบันศิลปะมาร์ไท นอกจากนี้ยังมีการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น การเดินป่าในสวนสาธารณะหรือการเรือน้ำในแม่น้ำฮานอย

เที่ยวฮานอยในปี 2023

ทัวร์เวียดนามเหนือ ฮานอย จ่างอาน ฮาลองเบย์ ซาปา 5วัน พัก รร.

ในปี 2023 นี้ ฮานอยจะเต็มไปด้วยกิจกรรมและงานเทศกาลที่น่าตื่นเต้น เช่น งานเทศกาลเรือยาว (Dragon Boat Festival) ที่จะมีการแข่งเรือยาวในแม่น้ำเพื่อเฉลิมฉลองและสร้างบรรยากาศสนุกสนาน นอกจากนี้ยังมีการแสดงของลานกลาง (Water Puppet Show) ที่จะมอบความสนุกสนานและความเป็นเอกลักษณ์ของฮานอยให้กับนักท่องเที่ยว

สรุป

การเที่ยวฮานอยในปี 2023 เป็นโอกาสที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวที่หลากหลายและน่าตื่นเต้นในเมืองประวัติศาสตร์สำคัญของเวียดนาม ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจวัดสวยงาม สัมผัสวัฒนธรรมที่ล้ำสมัย หรือเข้าร่วมกิจกรรมและงานเทศกาลที่น่าสนใจ อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมและรับรู้เรื่องราวที่หลังเบื้องหลังของเมืองฮานอยด้วย

FAQs

 การเดินทางไปฮานอยโดยอากาศจะใช้เวลานานแค่ไหน?

เวลาเดินทางโดยทางอากาศจากสนามบินของคุณจะขึ้นอยู่กับสถานที่ต้นทาง แต่ปกติจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง.

มีอะไรน่าสนใจที่เมืองฮานอยนอกเหนือจากวัดและสถานที่ประวัติศาสตร์?

นอกจากวัดและสถานที่ประวัติศาสตร์ คุณยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรม เช่น การสวมใส่เสื้อคู่แบบดั้งเดิม (ao dai) หรือเรียนรู้ศิลปะการเคลื่อนไหวของเวียดนามได้ที่สถาบันศิลปะมาร์ไท.

มีกิจกรรมเทศกาลใดที่น่าสนใจในปี 2023?

ในปี 2023 นี้ คุณสามารถเข้าร่วมกิจกรรมเทศกาลเรือยาว (Dragon Boat Festival) ที่จะมีการแข่งเรือยาวในแม่น้ำ และยังมีการแสดงของลานกลาง (Water Puppet Show) ที่น่าสนุกสนานอีกด้วย.

ฮานอยมีที่พักและร้านอาหารแบบไหนที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้ได้?

ฮานอยมีที่พักให้เลือกหลากหลายตั้งแต่โรงแรมระดับห้าดาว จนถึงบ้านพักแบบโฮมสเตย์ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์ทานอาหารชุดดั้งเดิมของเวียดนามได้.

 ฮานอยมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอะไรบ้าง?

นอกจากการท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ คุณยังสามารถเดินป่าในสวนสาธารณะหรือเรือน้ำในแม่น้ำฮานอยเพื่อสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามของเวียดนาม.

เที่ยวฮานอย เวียดนาม 2023 🇻🇳 | EP.2 ฮานอย เมืองหลวงโบราณ 1000 ปี | Hanoi Ancient City Vietnam [VIDEO]

HANOI
เที่ยวเวียดนาม 2022 เที่ยวฮานอย เมืองโบราณ 1000 ปี
Hanoi Ancient City Vietnam

กรุงฮานอย เป็นเมืองหลวงโบราณ นับ 1000 ปีของเวียดนาม
นับเป็นเมืองหลวงที่เก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งในเอเซีย
ซึ่งมีโบราณสถานมากมาย หลายแห่ง
ทั้ง วัดวาอาราม เจดีย์พุทธ
ป้อมปราการ ตลอดจนสถาปัตยกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
จากยุคอาณานิคมฝรั่งเศส

วีดีโอเที่ยวเวียดนาม 2022 ตอนนี้ พวกเราออกเดินทาง
เพื่อเรียนรู้ ประวัติศาสตร์เวียดนาม และกรุงฮานอย
ภายใน 24 ชั่วโมงของวัน
จะไปที่ไหน และเจออะไรบ้าง??
มาออกเดินทางด้วยกันเลยครับ
กับสารคดีท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์
“เที่ยวเวียดนาม ฮานอย” ชุดนี้ครับ

#สารคดีท่องเที่ยว #เที่ยวเวียดนาม #เที่ยวฮานอย #vietnam #hanoi

เนื้อหาของวิดีโอ เที่ยวฮานอย เวียดนาม 2023 🇻🇳 | EP.2 ฮานอย เมืองหลวงโบราณ 1000 ปี | Hanoi Ancient City Vietnam

กรุงฮานอยเป็นเมืองหลวงโบราณนับพันปีของเวียดนาม ซึ่งมีโบราณสถานมากมายหลายแห่ง ทั้งวัดวาอารามเจดีย์แบบพุทธป้อมปราการ ตลอดจนสถาปัตยกรรมอื่นๆอีกมากมาย จากยุคอาณานิคม ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส วีดีโอตอนนี้พวกเราจะออกเดินทางเพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของกรุงฮานอย ภายใน 24 ชั่วโมงของวัน จะไปที่ไหนจะเจออะไรบ้าง ออกเดินทางด้วยกันเลยครับ แล้วอย่าลืมกดติดตามพวกเรา Cross docking ด้วยนะครับ กับวันคืนที่เคลื่อนไปข้างหน้า ช่วงเวลาที่ปิดกั้นหัวใจ ไม่ให้โบยบินเหมือนบางสิ่งที่เลือนลางจางไป ฮักแท้จริงแล้วนั้น ไม่มีสิ่งใดสูญหายไปเลย ยังคงรอคอยอยู่ทุกแห่งหน ธรรมชาติงดงามสุด คาดเดา อาคารสถานที่ซึ่งตั้งอยู่ผ่านกาลเวลา ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมที่หลอมรวม ตกทอดสืบต่อกัน หลายพันปี การเดินทาง Facebook เรานับเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ที่เวียดนาม เข้าสู่เช้าวันใหม่ที่เมืองฮานอย มีฝนตกปอยปอย แต่ก็ออกไปเดินข้างนอกได้ เดี๋ยวออกไปหาอาหารเช้าทาน แล้วก็หาร้านกาแฟนั่งชิว ก่อนที่จะถึงเวลานัดใน 9:00 น ของวันนี้ ปิด เส้นขนมจีน ปล่อย เออใช่ ก๋วยเตี๋ยว 2 ถ้วยแล้วก็ปลาทอด 1 จาน ราคา 900 บาท หรือประมาณ 140 บาท ก๋วยเตี๋ยวคนละถ้วยแล้ว ถึงเวลาไปเดินหาร้านกาแฟกันครับ มันเป็นวันเสาร์เขาเลยปิดถนนคนเดิน ไม่มีรถไป ในวันเสาร์อาทิตย์จะมีการปิดถนนบริเวณรอบๆทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม เพื่อให้ผู้คนได้ออกมาเดินเล่นทำกิจกรรมเพื่อผ่อนคลาย ยิ่งตอนเช้าจะเห็นคนมาออกกำลังกายกันเยอะเลย แล้วผมได้อ่านบทความมาว่า มีร้านนึงตั้งอยู่หน้าทะเลสาบ ซึ่งทำกาแฟไข่สูตรดั้งเดิม เดี๋ยวลองชิมกันหน่อยครับ ร้านที่ชื่อคาเฟ่ดิน Zbing นั้น แม้จะตั้งอยู่ใกล้ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม แต่อาจจะหายากและสับสน ผมมีป้ายบอกทาง ตัวร้านตั้งอยู่บนชั้น 2 ของบ้านหลังเล็ก ที่มีสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสโบราณ แต่พื้นที่แคบๆ แสงซึม โต๊ะเล็กๆมีกี่โต๊ะ กับระเบียงที่มองเห็นวิวทะเลสาบ รวมๆแล้วกลายเป็นเสน่ห์ของร้านนี้ครับ คาเฟ่ลิงเปิดในปี 1990 เดิมชื่อร้าน Big Cafe ตามชื่อของเจ้าของร้านซึ่งเป็นลูกสาวของมิสเตอร์ช้าง ผู้ก่อตั้งช้างคาเฟ่ เจ้าของสูตรกาแฟไข่นั่นเอง หาข้อมูลที่ใกล้เคียงเขามีลูกหลายคนก็แบ่งให้ลูกคนนั้นคนนี้ อยู่ใกล้ๆกัน อากาศได้ว่า Cafe ดินเป็นส่วนสำคัญของวิถีเก่าในฮานอย ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวในอดีต และรสชาติกาแฟไข่ที่อร่อยแบบดั้งเดิม แม้ชีวิตภายนอกจะเร่งรีบ แต่เราสามารถพบเจอความสงบได้ ภายในร้านแห่งนี้ครับ ช่วงเดือนที่เวียดนามผมได้ค้นหาข้อมูลเพื่อหาไกด์ท้องถิ่นที่จะพาพวกเราเที่ยวในฮานอยครับ แล้วก็มาเจอกับฮานอย Free Private Tour สำหรับผมแล้วมันก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจและประหลาดใจกับคำว่าฟรี คนที่จะพาเราเที่ยวแบบไม่คิดเงินเนี่ย มีจริงเหรอ หลังจากศึกษาข้อมูลเข้าใจว่าฮานอยฟรีไพเวทตัวเป็นกิจกรรมดีๆที่จะให้นักเรียนนักศึกษาได้มีโอกาส การฝึกใช้ภาษาอังกฤษในการแนะนำประวัติศาสตร์วัฒนธรรมและสถานที่สำคัญในฮานอย ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติและไม่มีค่าใช้จ่าย แล้วพวกเราก็ได้นัดเจอกับน้องๆที่จะมาเป็นไกด์ในวันนี้ครับ คนแรกชื่อน้องแบงค์เล็ก ชื่อน้องคาสซานดร้าครับ โดยโปรแกรมเที่ยวของพวกเราในฮานอย ช่วงแรกอยากขอเรียนรู้หลักฐานประวัติศาสตร์ แล้ววัฒนธรรมที่สำคัญของเวียดนามได้ฮานอย น้องๆเลยพาพวกเรามาเริ่มต้นกันที่ Temple Of literature หรือวิหารวรรณกรรมครับ จะเป็นวันที่ซวยอีกวันนึงเดินเที่ยวหาหน่อยแล้วเราก็มีแผนว่าเราจะนั่งรถ หาค้นหาหมู่บ้านโบราณในเวียดนามใกล้ๆฮานอยนี้ จะไปหมู่บ้านเวียดนามแล้วก็จะไปน้องๆ เป็นแบบ temperature หรือว่าเป็นที่เขารู้กันว่าเป็นมหาลัยแห่งแรกของเวียดนาม อายุหลายร้อยปีเดี๋ยวก็รู้ว่าน้องเขาจะอธิบายยังไงแล้วก็ไม่ค่อยรู้ข้อมูลเท่าไหร่ ตอนนี้นั่งรถแท็กซี่ไปก่อน เพื่อเซฟเวลาเราสมัยนี้ Temple Of literature ในภาษาเวียดนามชื่อว่า วิหารวันเหมียว สร้างขึ้นในปีคริสต์ศักราช 170 ในสมัยจักรพรรดิ Live แห่งตรง ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของป้อมปราการหลวงทังล็อง เพื่ออุทิศให้กับขงจื๊อปราชญ์ชาวจีน อีก 6 ปีต่อมาในปี 2016 ไม่มีการสร้างโรงเรียนสำหรับคุณนานขึ้น ในบริเวณเดียวกันกับวิหาร เพื่อให้เหล่าขุนนางได้เข้าศึกษาเล่าเรียน แล้วสอบเป็นจอหงวน เมื่อถึงยุคสมัยราชวงศ์จีน ช่วงปีคริสต์ศักราช 1225 ถึง 1,400 จึงได้เปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้าเรียน วิชาที่สอนนั้นเป็นวิชาปรัชญาของขงจื้อ เช่นเรื่องการประพฤติปฏิบัติตน วิชาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเป็นต้น ก่อนปิดตัวลงและถูกทิ้งให้รกร้างในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 เมื่อฝรั่งเศสเข้ายึดเวียดนามเป็นเมืองขึ้น แม้จะเกิดสงครามและภัยพิบัติต่างๆ วิหารแห่งนี้ยังคงรักษารูปแบบ สถาปัตยกรรมโบราณของราชวงศ์ต่างๆ เอาไว้อย่างมากมาย อีกแค่โชว์ QR Code ตัวนี้ ก็ให้เขาดูสแกน QR Code คนเยอะมากแล้วตรงที่ซื้อตั๋วนี้ก็ซื้อได้มาเป็นใบเหมือนใบเสร็จแล้วมี QR Code เขียนว่า 3 คนแต่พอมาถึงด่านในประตูที่เข้านี้ก็งงกับสแกนแบบคน หรือสแกนคนหนึ่งเขาบอกต้องดูก่อนว่ากี่คน แผนผังของวิหารวรรณกรรมถูกออกแบบคล้ายกับวัดในมือถือคู่ มณฑลซานตง บ้านเกิดของปราชญ์ขงจื้อ แบ่งสัดส่วนออกเป็น 5 ล้าน ไม่เดินเข้าประตูหลักมาแล้วจะเจอกับสวนที่ร่มรื่นสวยงาม ทางเดินทอดยาวผ่านประตูเล็กๆ 2 แห่ง ซึ่งจะเชื่อมต่อไปยังร้านที่ 2 หนูจะเห็นศาลาไม้สีแดงที่ตั้งบนเสาหินสีขาว มีชื่อว่า เขววันกั๊ก หรือหออาศรมอักษรศาสตร์ งานสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ที่สร้างขึ้นในปี 1850 Something that distributing Bendix ด้านบนศาลาเป็นสีแดงมีหน้าต่างทรงกลม 2 บาน และหลังคาอันวิจิตรงดงาม โดยสารแห่งนี้นับเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมและอารยธรรมของเมืองฮานอยด้วย เดินผ่านมาเข้าสู่ไลน์ที่ 3 จะพบกับสระน้ำ เทียนกวางติง ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของร้านแห่งนี้ เขาบอกว่า นักศึกษาจากต่างจังหวัดก็จะเข้ามาที่นี่เพื่อจะมาตอบ แล้วก็จะมีการปรับ มีการทดสอบอะไรอย่างนี้มั้ง ทางด้านข้าง 2 ฝั่งจะเป็นศาลาที่ตั้งศิลาจารึก 2 หัว เป็นแผ่นหินที่จารึกนามของเหล่าจอหงวน ที่ผ่านการสอบในแต่ละยุคสมัยของกษัตริย์แต่ละพระองค์ การก่อสร้างศิลาจารึก เริ่มขึ้นในปี 2484 ช่วงรัชสมัยจักรพรรดิเลแข็งตรง ศิลาจารึกจองหงวนนับเป็นโบราณวัตถุทางประวัติศาสตร์อันมีค่า สำหรับการศึกษาวัฒนธรรม และประติมากรรมในเวียดนาม โดยศิลาจารึกนั้นตั้งอยู่บนหินแกะสลักรูปเต่า ตามความเชื่อของชาวเวียดนามนั้น เต่าเป็นสัญลักษณ์ของความมีอายุยืน รัตติปัญญา ปัจจุบันคงเหลือศิลาอยู่จำนวน 82 แผ่น จากที่เคยมีอยู่เดิมถึง 117 แผ่น อยู่ที่จารึกชื่อและบ้านเกิดของผู้สำเร็จการศึกษา 1307 คนไว้ระหว่างปีคริสต์ศักราช 1412 ถึงคริสต์ศักราช 1779 คือมีการจารึกต่อเนื่องราว 300 ศิลาจารึกจองหัวได้รับการลงทะเบียนไว้ในเมมโมรี่ of ureter ของยูเนสโกในปี 2011 เมื่อเดินผ่านประตูจากร้านที่ 3 เข้าสู่ร้านที่ 4 ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญของการประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ นับเป็นใจกลางและสถาปัตยกรรมหลักของวิหารวรรณกรรม ในศาลาใกล้ๆกันจะเห็นผู้คนทั้งพ่อแม่ แล้วเด็กนักเรียนเข้าคิวกันเพื่อขอให้นักปราชญ์ เขียนตัวอักษรให้ เช่นคำว่า ความสุข ความสำเร็จ สุขภาพดีและความมั่งคั่ง เมื่อเดินเข้ามาจนถึงลานที่ 5 ซึ่งจะเป็นลานโล่งกว้าง เป็นพื้นที่ก่อตั้งสถานศึกษาแห่งแรกของประเทศตั้งแต่ปี 2016 โดยสมัยก่อนนั้นวิหารแห่งนี้ยังไม่มีห้องเรียนห้องสอบ จึงใช้ลานกว้างบริเวณนี้ เป็นสถานที่สำหรับสอบจอหงวน มีโต๊ะแล้วก็เด็กๆไง ในปี 1946 บริเวณนี้ได้ถูกทำลายไปในสงครามอินโดจีนครั้งที่ 1 อาคารศาลาที่เราเห็นอยู่ปัจจุบันนั้นถูกสร้างขึ้นใหม่บนพื้นที่เดิมในปี 2000 ทักแชท หายไวๆเด้อ สีหน้าซึ่งก็คือ หลังจากผ่านไปเกือบพันปี ผ่านสงครามและการบูรณะหลายครั้ง วิหารวรรณกรรม ยังคงรักษารูปแบบสถาปัตยกรรมและภูมิทัศน์ดั้งเดิมไว้ได้ ชาวเวียดนามใช้ความพยายาม เพื่อรักษาพื้นที่แห่งประวัติศาสตร์นี้ สนามหญ้าและสวนของวิหาร ยังคงได้รับการดูแลตกแต่งอย่างสวยงาม จนถึงทุกวันนี้เช่นเดียวกับเมื่อหลายร้อยปีก่อน จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขอแนะนำ ให้ใช้เวลาเพื่อมาเยี่ยมชมครับ จาก Temple Of literature น้องๆพาพวกเราเดินไปต่อกันที่ Imperial citadel of ทางลอง ตีป้อมปราการหลวงทังล็องครับ กำลังจะเดินไปที่พระราชวังเก่าอิมพีเรียลถังลอง ครรลอง ป้อมปราการหลวงทังลองหรือในภาษาเวียดนามคือหัวแข็งทางลองตั้งอยู่ใจกลางกรุงฮานอยมากกว่า จึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์เวียดนาม ในปี 2010 ซึ่งเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 1 ปีของกรุงฮานอยพื้นที่ส่วนกลางของป้อมปราการ การหลวงทางรอง จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ขององค์การยูเนสโก เมื่อกี้น้องเค้าเล่าว่า พระราชวังนี้สร้างปี 1010 100 ส่วน The Temple Of literature สร้าง 1070 อยู่ในราชวงศ์เดียวกันเนี่ยที่สร้าง ถามว่า เราจะได้เห็นพระราชวังไหมข้างใน น้องบอกว่าอาจจะเหลือบางส่วนเพราะว่าบางส่วนก็ถูกทำลายไปตอนที่มี จนถึงช่วงปลายทศวรรษที่ 90 จุดที่ตั้งของป้อมปราการหลวงโบราณทางลอง ยังคงเป็นหนึ่งในเรื่องลึกลับและเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมาก นับเป็นเรื่องท้าทายของนักวิจัยประวัติศาสตร์เวียดนาม พี่จะค้นพบความจริง กระทั่งในปี 2002 นักโบราณคดีชาวเวียดนาม ทำการขุดค้นบริเวณใกล้ประตูทิศเหนือ ภูเขามองหาโบราณวัตถุเพิ่มเติมจากยุคราชวงศ์เหนียว ทันใดนั้นพวกเขากลับค้นพบสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของเวียดนามแทน นั่นคือการก่อร่างสร้างเมืองเกาะพันปีก่อน ในปีคริสต์ศักราช 1010 กับสตรีไทยโตได้ตัดสินใจย้ายเมืองหลวงจากหัวเรือไปยังใดล่ะ และเปลี่ยนชื่อเป็นทางรอง จากนั้นได้มีการสร้างป้อมปราการหลวงทังล็องขึ้นและแล้วเสร็จในต้นปีคริสต์ศักราช 1010 ป้อมปราการแห่งนี้เคยเป็นเมืองหลวงของเวียดนามเป็นเวลากว่า 700 ปี จนกระทั่งราชวงศ์เหนียนย้ายเมืองหลวงไปยังเมืองหวย แล้วหลังจากเกิดสงครามอย่างต่อเนื่องตลอดศตวรรษที่ 19 และ 20 ป้อมปราการพระราชวังและสิ่งปลูกสร้าง ถูกทำลายไปมาก ด้วยเหตุนี้จึงแทบไม่เห็นโครงสร้างโบราณหลงเหลือมากนัก อย่างไรก็ตามผู้มาเยี่ยมชมป้อมปราการทางลอง ยังคงสามารถเยี่ยมชมโครงสร้างที่เหลืออยู่ของเมืองโบราณ และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ที่จัดแสดงโบราณวัตถุ ที่ขุดพบจากอาณาจักรในอดีต โดยมีการขุดพบเครื่องเคลือบดินเผาและเซรามิคคุณภาพสูงจำนวนมาก ที่มีลวดลายประณีตซับซ้อนและงดงาม ซึ่งน่าจะสงวนไว้สำหรับพระมหากษัตริย์และใช้ในราชสำนักนั้น ไม่ถูกนำมาจัดแสดง เพื่อให้ผู้มาเยี่ยมชมที่สนใจ สามารถเรียนรู้ภูมิหลังทางวัฒนธรรมการเมือง ศาสนาและเศรษฐกิจในวังหลวงทางลอง ในช่วงเวลาประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ป้อมปราการหลวงทังล็อง ซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 11 โดยราชวงศ์ลีนั้น เป็นการสร้างป้อมปราการใหม่ ทับลงบนพื้นที่ป้อมกำแพงเก่าของจีนที่สร้างไว้ในศตวรรษที่ 7 เป็นการยืนยันถึงความเป็นอิสระของอาณาจักรใดเวียด อย่างไรก็ตามมีการนำแผนผังพระราชวังแบบจีนมาใช้ ในการออกแบบและก่อสร้าง แต่ก็ยังแสดงให้เห็นถึงรูปแบบเฉพาะ ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเวียดนาม เช่นเดียวกับทุกภูมิภาคที่ถูกยึดครองโดยชาวจีนในสมัยราชวงศ์ฮั่น การปกครองโดยตรงของจีนถูกจัดตั้งขึ้น พร้อมกับความพยายามที่จะเปลี่ยนผู้คนในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง ให้กลายเป็นชาวจีน ประเพณีท้องถิ่นถูกปราบปราม และถูกแทนที่โดยวิธีการของลัทธิเต๋าและลัทธิขงจื้อ ผู้คนท้องถิ่นถูกบังคับให้เรียนภาษาจีน องค์ประกอบของอารยธรรม และวัฒนธรรมจีน ผู้ประสานเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นของชนพื้นเมือง สืบเนื่องมากกว่าพันปี ภายใต้การปกครองของจีน หลังจากก่อตั้งเมืองหลวงทำลองแล้ว สิ่งก่อสร้างสำคัญสำคัญมากมาย สร้างขึ้นภายใต้ราชวงศ์ลี ได้มีการนำระบบการศึกษาและการคัดเลือกขุนนาง ข้าราชการท้องถิ่นตามแบบโมเดลของจีนมาใช้ ระบบการสอบข้าราชการแบบลัทธิขงจื้อในเวียดนามนั้น เริ่มต้นในยุคจักรพรรดิลีงานตรงแห่งราชวงศ์ลี และสืบเนื่องมาจนถึงจักรพรรดิ ไข่ดิน แห่งราชวงศ์เหงียน โดยอุปกรณ์เครื่องใช้และเครื่องเขียน รวมถึงผังที่นั่งสอบในลานกว้างของวิหารวรรณกรรม ก็ได้นำมาจัดแสดงให้ผู้มาเยี่ยมชมที่ป้อมปราการทางลองแห่งนี้ด้วย หากจะใช้เวลาดื่มด่ำกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ทุกยุคสมัย ซึ่งจัดแสดงไว้ให้ชมกันที่นี่ อาจต้องใช้เวลาทั้งวันเลยนะครับ You can tell me แต่เนื่องจากเรามีแผนจะออกค้นหาหมู่บ้านโบราณกันในช่วงบ่าย จึงขอใช้เวลาไปเยี่ยมชมสถานที่ประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่ง ที่แฝงตัวอยู่ในป้อมปราการแห่งนี้ครับ นั่นคือ ดีสิเซเว่นเฮ้าส์ครับ เป็นห้องประชุมสำหรับ ที่จะไปเกาะคู่เอกกับราชของเวียดนามใต้ ตอนนั้นลุงโฮเสียชีวิตไปแล้วก็เลยไม่ได้นั่งอยู่ที่โต๊ะนี้ บนโต๊ะนี่ก็จะมีชื่อของ นายพลทุกท่านที่ได้ มาร่วมกันประชุม ในบรรดาสถานที่หรือวัตถุที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของเวียดนาม ภายในป้อมปราการทังลอง Dc seven House นับเป็นสถานที่ควรมาเยี่ยมชมครับ เนื่องจากเคยใช้เป็นที่ประชุมสำคัญของเวียดนาม Police บูโร และคณะกรรมาธิการทหารในช่วงทำสงครามกับสหรัฐอเมริกา สงครามเวียดนามเป็นความขัดแย้งที่ยาวนาน นำสู่การแบ่งแยกประเทศรัฐบาลคอมมิวนิสต์ของเวียดนามเหนือ ต่อสู้กับเวียดนามใต้และสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นพันธมิตรหลัก ผู้คนมากกว่า 3 ล้านคน รวมถึงชาวอเมริกันกว่า 50,000 คนถูกสังหารในสงครามเวียดนาม แต่มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิต เป็นพลเรือนชาวเวียดนาม ในช่วงเดือนเมษายนถึงกรกฎาคมปี 1967 บ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้น ซึ่งดูเหมือนบ้านพลเรือนทั่วไป แต่ภายในนั้นมียุทโธปกรณ์ทางทหารครบครัน บันไดหนีไฟประตูเหล็กกล้า นำสู่ชั้นใต้ดินลึก 9 เมตร ภายในห้องใต้ดินประกอบด้วยห้องประชุมขนาดใหญ่ ห้องทำงาน และห้องที่บรรจุอุปกรณ์ พร้อมรับมือกับการโจมตีด้วยระเบิดสารเคมีและอาวุธชีวภาพ ตอนนี้อยู่ในบังเกอร์ สันดานสันดานคน จะเป็น 11 Missing You ผู้บังคับการ บ้านดี 67 นั้น ได้รับการบูรณะ แล้วเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่ปี 2004 อุปกรณ์เครื่องใช้แต่ละชิ้น บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ในช่วงเวลาแห่งการต่อสู้ และได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่สุดช่วงหนึ่งของประเทศ โบราณสถานและโบราณวัตถุแต่ละชิ้นในป้อมปราการทังลอง เป็นพยานบันทึกร่องรอยประวัติศาสตร์ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆจากยุคราชวงศ์ ยุคล่าอาณานิคม สู่ชัยชนะอันรุ่งโรจน์ จากการรุกรานของต่างชาติในสมัยของโฮจิมินห์ ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม และจุดหมายปลายทางทางประวัติศาสตร์ ที่พร้อมบอกเล่าส่งต่อให้คนรุ่นต่อไปที่ฟัง การเดินทางเพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์ในฮานอยตลอดทั้งวันนี้ยังไม่จบนะครับ ช่วงต่อไปพวกเราจะออกไปค้นหาหมู่บ้านโบราณในฮานอย ที่ยังมีวิถีชีวิตเก่าๆหลงเหลืออยู่ ออกเดินทางไปด้วยกันต่อนะครับ Cross cutting Journey