ไปมั่วทั่ว “เชียงราย” : ขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยว กรุงเทพฯ-เชียงราย เที่ยวครบๆ งบไม่บาน

วันนี้เราจะพาคุณไปสำรวจเมืองเชียงรายที่สวยงามและน่าสนใจที่สุดในภาคเหนือของประเทศไทย! เชียงรายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีอัญมณีทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเดินทางที่หลงใหลในวิถีชีวิตชนเผ่าพื้นเมือง หรือเป็นคนที่ค้นหาการผจญภัยในธรรมชาติที่สวยงาม เชียงรายจะไม่ทิ้งท่ามือคุณเสียอย่างแน่นอน!

เรามาวางแผนการเดินทางกันก่อนเลย การขี่มอเตอร์ไซค์เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมในการสำรวจเชียงราย การเดินทางจากกรุงเทพฯไปยังเชียงรายด้วยมอเตอร์ไซค์จะเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและน่าจดจำ ทางเลือกที่สามารถเลือกได้หลายเส้นทางที่สามารถเดินทางได้ตามความต้องการและชอบชื่นชอบของคุณ

หลังจากการวางแผนเส้นทาง คุณสามารถเริ่มต้นการเดินทางกันได้เลย! คุณจะได้สัมผัสกับความงามธรรมชาติของเชียงราย และสัมผัสวัฒนธรรมและวัฒนธรรมของคนในพื้นที่ ติดตามต่อเนื่องเพื่อรับสาระและข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเมืองเชียงรายในบทความต่อไป!

Table of Contents

เชียงรายคือที่ไหน?

แบกเป้เที่ยวสูงสุดของประเทศไทย 3 วัน 2 คืน แว้นมั่วทั่ว 'เชียงราย' : )

เชียงรายเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 800 กิโลเมตร ถ้าคุณกำลังมองหาปลายทางท่องเที่ยวที่มีทั้งธรรมชาติสวยงาม และวัฒนธรรมที่หลากหลาย เชียงรายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย

วางแผนการเดินทางจากกรุงเทพฯไปเชียงราย

ขับรถเล่น ตระเวนรอบภาคเหนือ

ก่อนอื่นให้คุณเลือกเส้นทางที่เหมาะสมในการเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์จากกรุงเทพฯไปยังเชียงราย มีทางเลือกหลายเส้นทางที่สามารถใช้ได้ เช่น เส้นทางทางหลวงหมายเลข 1 หรือ เส้นทางทางหลวงหมายเลข 32 โดยแต่ละเส้นทางจะมีลักษณะและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจต่างกัน ควรทำการศึกษาแผนที่และข้อมูลก่อนการเดินทาง

การเดินทางจากกรุงเทพฯไปเชียงรายด้วยมอเตอร์ไซค์ใช้เวลาประมาณ 10-12 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสถานที่หยุดพักระหว่างทาง ควรจัดเวลาให้เพียงพอสำหรับการเที่ยวชมสถานที่ต่างๆในเชียงราย

สำรวจความงามของธรรมชาติในเชียงราย

แบกเป้เที่ยวสูงสุดของประเทศไทย 3 วัน 2 คืน แว้นมั่วทั่ว 'เชียงราย' : )

ดอยตุง

ดอยตุงเป็นเส้นทางเที่ยวสำหรับคนรักธรรมชาติและวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเชียงราย ที่นี่จะมีศูนย์กลางการท่องเที่ยวและสวนดอกไม้ที่มีความสวยงาม นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับพักผ่อนและพื้นที่ที่จัดโครงการเกษตรที่มีวิถีชีวิตของชาวเขาอยู่

สวนสิงห์

สวนสิงห์เป็นสวนพฤกษศาสตร์และสวนสาธารณะที่สวยงามอยู่ในเชียงราย ที่นี่คุณจะได้พบกับเขาใหญ่ที่สูงสวยงาม หุบเขา เขื่อนน้ำและบ่อน้ำ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ เช่น ยิงธนูทางน้ำ กีฬาปีนเขา และการเดินป่า

สามเหลี่ยมทองคำ

สามเหลี่ยมทองคำเป็นจุดที่สามารถเดินทางไปเยือนได้จากเชียงราย ที่นี่คุณสามารถเห็นมุมมองที่น่าประหลาดใจของสามแผ่นดินร่วมกันของประเทศไทย เมียนมาร์ และลาว นอกจากนี้ยังมีท้องที่สำคัญในเส้นทางการค้าสายยาวในอดีต

ลงตัวในศิลปะและวัฒนธรรมของเชียงราย

ชีวิตวัยรุ่นของผม กับการขี่มอเตอร์ไซค์ธรรมดาๆคนเดียว เที่ยวอาเซียนครับ - Pantip

วัดร่องขุ่น (วัดเจดีย์ขาว)

วัดร่องขุ่นหรือวัดเจดีย์ขาวเป็นวัดที่มีความสวยงามและน่าทึ่งที่ตั้งอยู่ในเชียงราย สถาปัตยกรรมของวัดนี้เป็นเอกลักษณ์และมีสีขาวสะอาดแบบไม่เหมือนกับวัดใดๆ ที่คุณเคยเห็นมาก่อน นอกจากนี้ยังมีการแสดงภาพเรื่องพระพุทธรูปที่ทันสมัยและน่าสนใจ

วัดพระแก้ว

วัดพระแก้วเป็นวัดที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของไทย ภายในวัดนี้คุณจะได้เห็นพระพุทธรูปพระแก้วมรกต ที่เป็นที่นักท่องเที่ยวที่มีความสำคัญมาก นอกจากนี้ยังมีวัดเหล่าอื่นๆที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นสถานที่น่าสนใจ

หมู่บ้านชาวเขา

ในเชียงรายยังมีหมู่บ้านชาวเขาที่น่าสนใจที่คุณสามารถเข้าไปเยี่ยมชมและเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวเขาได้ คุณสามารถพบเห็นการทำงานศิลปะจากผ้าไหมลายหน้าผ้า จักรเย็บลวดลาย การประดิษฐ์เครื่องประดับ และอื่นๆ ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยชาวเขา

สัมผัสกับอาหารท้องถิ่นในเชียงราย

ร้านอาหารเชียงราย อร่อย ๆ 2019 จัดว่าเด็ด!! | Halla Banaha

ข้าวซอย

ข้าวซอยเป็นอาหารท้องถิ่นที่มีความนิยมในเชียงราย มีรสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอมจากเครื่องปรุงที่ผสมกับน้ำพริกแกง คุณจะได้รับรสชาติที่หลากหลายจากหม้อที่ต้มพร้อมกับเส้นบะหมี่ และหมูหมัก

ไส้อั่ว

ไส้อั่วเป็นอาหารเช้าที่น่าลิ้มลองในเชียงราย มันเป็นข้าวเหนียวที่รวมกับถั่วดำ และเครื่องปรุงรสอื่นๆ เช่น กะทิ น้ำตาล และเกลือ เมื่อคุณรับประทานไส้อั่ว คุณจะได้รับพลังงานที่สูงและรสชาติที่หวานหอมอร่อย

ขนมจีนน้ำเงี้ยว

ขนมจีนน้ำเงี้ยวเป็นเมนูอาหารท้องถิ่นที่น่าลิ้มลองในเชียงราย มันเป็นเส้นบะหมี่ที่ใส่น้ำซุปเข้มข้นและเต็มไปด้วยรสชาติจากเครื่องปรุงที่ผสมเข้าด้วยกัน คุณยังสามารถเพิ่มรสชาติด้วยน้ำพริกแกงและเครื่องปรุงอื่นๆ ตามชอบ

สนุกกับกิจกรรมกลางแจ้งในเชียงราย

ไปเที่ยวกัน ยะลา - น่าน-เชียงใหม่-เชียงราย (YAMAHA MT09) - Pantip

ขี่ช้าง

การขี่ช้างเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมในเชียงราย คุณสามารถขี่ช้างและท่องเที่ยวในป่าเขาได้ รับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในการสัมผัสกับสัตว์ใหญ่ที่น่ารักและเพลิดเพลิน

ล่องแพและเรือยาง

การล่องแพและเรือยางเป็นกิจกรรมที่สนุกและน่าตื่นเต้นที่คุณสามารถเล่นในแม่น้ำของเชียงราย คุณสามารถเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวบ้าน สัมผัสกับธรรมชาติที่งดงาม และเพลิดเพลินกับการชมวิวรอบๆ

น้ำพุร้อน

เชียงรายยังมีแหล่งน้ำพุร้อนที่น่าสนใจให้คุณเพลิดเพลิน คุณสามารถแช่อาบน้ำในน้ำพุร้อนที่มีสมาชิกธาตุเพื่อสุขภาพของคุณ นอกจากนี้ยังมีสปาและบรรยากาศผ่อนคลายเพื่อให้คุณสามารถผ่อนคลายอย่างเต็มที่

ตัวเลือกที่พอเป็นไปได้สำหรับที่พักในเชียงราย

ลุยเดี่ยวเที่ยวทริปเหนือ 2018 : 2 คน 1 คัน ในวันที่ฟ้าไม่เป็นใจ - Pantip

โรงแรมราคาประหยัด

ในเชียงรายมีโรงแรมราคาประหยัดที่มีคุณภาพดี คุณสามารถเลือกที่พักในโรงแรมที่มีบริการที่ดี ทำเลที่สะดวกสบาย และราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณ

โรงแรมเกสต์เฮ้าส์

หากคุณต้องการที่พักที่มีบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกลางแจ้ง คุณสามารถเลือกโรงแรมเกสต์เฮ้าส์ที่มีบริการที่ดี และมีบรรยากาศที่เป็นกันเอง

โฮมสเตย์

หากคุณต้องการประสบการณ์การพักผ่อนที่เป็นกันเองและใกล้ชิดกับวัฒนธรรมท้องถิ่น คุณสามารถเลือกโฮมสเตย์ที่มีความอบอุ่นและบริการที่ดีในราคาที่เหมาะสม

สรุป

การเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์จากกรุงเทพฯไปยังเชียงรายเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและสนุกสนาน คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติสวยงาม วัฒนธรรมท้องถิ่น อาหารอร่อย และกิจกรรมที่สนุกที่เชียงรายมีให้เลือกมากมาย อย่าลืมวางแผนการเดินทางของคุณให้ดีและเพลิดเพลินกับการผจญภัยที่ไม่เหมือนใครในเชียงราย!

คำถามที่พบบ่อย

1. เมื่อไหร่เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางไปเชียงรายด้วยมอเตอร์ไซค์?

เดือนที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางไปเชียงรายด้วยมอเตอร์ไซค์คือช่วงปลายฝนถึงช่วงเย็น ซึ่งประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ ช่วงนี้อากาศจะเย็นสบายและไม่มีฝนตกมากนัก ทำให้การเดินทางสะดวกและสนุกยิ่งขึ้น

2. มีที่พักที่เหมาะสมสำหรับนักเดินทางที่มาเชียงรายด้วยมอเตอร์ไซค์อย่างไรบ้าง?

เชียงรายมีที่พักหลากหลายให้เลือกตามความต้องการและงบประมาณของคุณ หากคุณกำลังมองหาที่พักราคาประหยัด คุณสามารถเลือกโรงแรมราคาประหยัดหรือเกสต์เฮ้าส์ที่มีราคาไม่แพง แต่ถ้าคุณต้องการประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์และบรรยากาศที่เป็นกันเอง คุณสามารถพักอยู่ในโฮมสเตย์ท้องถิ่นที่มีบริการอบอุ่นและเป็นกันเองได้

3. มีอะไรให้ทำและสถานที่ท่องเที่ยวในเชียงรายบ้าง?

ในเชียงรายมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่น่าสนใจ คุณสามารถไปเยี่ยมชมวัดร่องขุ่น (วัดเจดีย์ขาว) และวัดพระแก้วที่เป็นสัญลักษณ์ของเชียงรายได้ นอกจากนี้ยังมีที่เที่ยวอื่นๆ เช่น ดอยตุง เที่ยวสวนสิงห์ สามเหลี่ยมทองคำ และหมู่บ้านชาวเขาที่น่าสนใจอีกมากมาย

4. มีอาหารอร่อยท้องถิ่นใดในเชียงรายที่ควรลอง?

คุณควรลองอาหารท้องถิ่นที่เชียงรายเพื่อสัมผัสรสชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น บางอย่างที่คุณควรลองไปดู ได้แก่ ข้าวซอย ไส้อั่ว และขนมจีนน้ำเงี้ยว

5. มีกิจกรรมพิเศษใดที่น่าสนใจในเชียงราย?

นอกเหนือจากการสัมผัสกับธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมพิเศษอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น การขี่ช้าง การล่องแพและเรือยางในแม่น้ำ และการแช่อาบน้ำในน้ำพุร้อน

หวังว่าคำถามและคำตอบเหล่านี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้คุณมีข้อมูลในการเดินทางไปสำรวจเชียงรายด้วยมอเตอร์ไซค์ได้อย่างเต็มที่! สนุกกับการเดินทางและสร้างความทรงจำที่ยิ่งใหญ่ในเมืองเชียงราย!

ไปมั่วทั่ว “เชียงราย” : ขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยว กรุงเทพฯ-เชียงราย เที่ยวครบๆ งบไม่บาน [UNCUT VERSION] [VIDEO]

#ขี่มอไซค์เที่ยว #เที่ยวเชียงราย #ที่เที่ยวเชียงราย
ขี่มอเตอร์ไซค์จากกรุงเทพมหานครมุ่งหน้าเข้าสู่เชียงราย กับการพาแฟนมายังจังหวัดนี้เป็นครั้งแรกและเป็นการทุบสถิติของสก๊อยตูดทองคำ ที่เป็นทริปซ้อนมอเตอร์ไซค์ไกลที่สุดในชีวิต ตะลอนเที่ยวอำเภอต่างๆ สัมผัสอากาศหนาว วัฒนธรรม สิ่งปลูกสร้าง ที่เป็นจุดเด่นของจังหวัดเชียงรายแบบเต็มอิ่มกันแบบ UNCUT VERSION จะพาไปเที่ยวที่ไหนบ้าง มาทำความรู้จักเชียงรายไปพร้อมกันเลยครับ

#เที่ยวเชียงราย #ขี่มอไซค์เที่ยว #ที่เที่ยวเชียงราย

เนื้อหาของวิดีโอ ไปมั่วทั่ว “เชียงราย” : ขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยว กรุงเทพฯ-เชียงราย เที่ยวครบๆ งบไม่บาน [UNCUT VERSION]

เช้าวันแรกในการเดินทางจากกรุงเทพฯสู่จังหวัดเชียงราย วิธีการเดินทางในครั้งนี้ คงจะเป็นการทำลายสถิติการซ้อนมอเตอร์ไซค์ที่ยาวนานที่สุดของเฟิร์ส แสงหน้าสถิติเก่าที่เคยทำไว้จากทริปน่าน และในวันแรก แล้วจะขี่มอเตอร์ไซค์กันยาวถึง 800 กิโลเมตร อาจจะต้องใช้เวลากันเกือบทั้งวัน เพื่อไปให้ถึงตัวเมืองจังหวัดเชียงราย วันแรกกับระยะทาง 800 กิโลเมตร ที่ใช้เวลาร่วมกับยานพาหนะ 2 ล้อกว่า 10 ชั่วโมง ก็ถือว่าเหนื่อยพอตัว กับคนที่นานๆทีจะได้ซ้อนมอเตอร์ไซค์ทางไกล แต่เราก็ยังพอมีแรงเหลือ เดินเล่นกันที่ถนนคนเดินเชียงราย แวะใช้บริการนวดจากระฟ้าที่สูงนวด ผ่อนคลายร่างกายจากการเดินทางไกลในครั้งนี้ ครั้งนี้เป็นการมาเชียงรายครั้งแรกของเฟิร์ส ซึ่งสำหรับครั้งแรก ก็คงต้องจัดทริปเที่ยวเชียงรายตามฉบับทัวร์จีน วันนี้ผมเลยจะพาเฟิร์สไปยังสถานที่สำคัญสำคัญยอดฮิตในเชียงราย มันเป็นการปูพื้นฐานเชียงรายให้เขาได้รู้จักเมืองนี้มากขึ้น แล้วก็เริ่มต้นกันที่สถานที่ใกล้ที่พักอย่างวัดสีน้ําเงิน หรือวัดร่องเสือเต้น ที่ขี่รถไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงที่หมายแล้ว ตั้งแต่เลี้ยวเข้ามาในวัด เราจะเริ่มเห็นสถาปัตยกรรมแนวพุทธศิลป์ ที่ถูกคุมโทนด้วยสีน้ำเงินฟ้าทั้งหมด เป็นลักษณะของประติมากรรมที่ถูกออกแบบมาอย่างตั้งใจ สร้างเอกลักษณ์ให้มีจุดเด่นเป็นที่น่าจดจำ และยังสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้มาเยือน ผลงานดังไกลถึงต่างแดน ซึ่งผลงานอันทรงคุณค่านี้ เป็นของศิลปินพื้นบ้านชาวเชียงราย นามว่าสละนก ฉันเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์เฉลิมชัย ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ ถัดมาไม่ไกลกับอีกวันที่ตัวต้องลงอย่างวัดห้วยปลากั้ง จะว่าไปแล้ว ที่เชียงรายก็มีวัดสวยอันดับต้นๆของประเทศไทยอยู่หลายวัด และที่นี่ก็เป็นอีกวัดหนึ่งที่มีความงดงามทางสถาปัตยกรรมแต่มีความแตกต่างที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยภาพรวมแล้ววัดห้วยปลากั้งจะมีลักษณะไปทางวัดจีน ที่แบ่งออกเป็น 3 จุดหลักๆ โดยจุดแรกจะเป็นพบโชคธรรมเจดีย์ เป็นเจดีย์ 9 ชั้นที่ตั้งชื่อตามพระอาจารย์ที่ร่วมบูรณะวัดแห่งนี้ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง จุดที่ 2 คือพระอุโบสถสีขาว ที่แกะสลักลวดลายเอาไว้อย่างอ่อนช้อย มีรายละเอียดปลีกย่อยที่ซับซ้อน และมีพระประธานองค์ใหญ่ภายในโปรดให้เรากราบไหว้ ให้อารมณ์คล้ายกับวัดไทยที่เราคุ้นเคย จุดที่ 3 ผมคิดว่านี่คงจะเป็นจุดเด่นที่สุดของวัดนี้ ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวอยากมาวัดห้วยปลากั้ง องค์เจ้าแม่กวนอิมปางเภสัช ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความสูงเทียบเท่าตึก 26 ชั้น ซึ่งคนส่วนมากก็จะมากราบไหว้พระขอพรเรื่องสุขภาพ แล้วรหัสขึ้นไปยังด้านบนสุด ก็จะสามารถมองเห็นเมืองเชียงรายได้ทั้งเมือง แล้ววัดแห่งนี้ยังมีการสร้างโรงพยาบาลที่รักษาประชาชนฟรี ซึ่งพอได้ยินแบบนี้ ผมเองก็รีบทำบุญสมทบทุน เผื่อว่าอานิสงส์ผลบุญ จะช่วยดลบันดาลให้คนรอบข้างของผม มีสุขภาพที่แข็งแรง ถ้าถามถึงไร่ชาที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในประเทศไทย ก็คงเป็นไร่ชาฉุยฟงนี่แหละ ที่คงจะได้คำตอบเป็นเอกฉันท์ แล้วคนที่มาเชียงรายครั้งแรก ต่างก็มีเป้าหมายมาที่ไร่ชาแห่งนี้ แต่แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็คือหญิงสาวคนนี้ ที่เธอเลือกที่นี่เป็นเป้าหมายอันดับต้นของการมาเที่ยวเชียงรายในครั้งนี้ และของหวานเรานี้ กระเพราช่วยคลายเหนื่อยจากการเดินทางไกลและทำให้เธอมีความสุข แล้วเมื่อเธอมีความสุข โลโก้ยืนสงบสุข มีสิ่งที่แอบแฝงมากับการเที่ยวเชียงรายในครั้งนี้ ซึ่งถ้าหากเราใช้มอเตอร์ไซค์ในการเดินทางมา ก็คงจะต้องขี่มาพิชิตให้ถึงป้ายเหนือสุดแดนสยาม แล้วมันคงเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น ถ้ามีใครสักคนที่ยอมเหนื่อย ยอมร้อน ซ้อนมอเตอร์ไซค์มาด้วยกัน เพื่อช่วยตอกย้ำความทรงจำ สร้างบันทึกหน้าใหม่ พร้อมกันไปกับคุณ ผมมาเจอร้านคาเฟ่ร้านหนึ่งในแม่สาย ที่มีชื่อว่า builds คาเฟ่เบาหวานที่เจ้าของร้านมีเทสในการตกแต่งร้านที่ดีมากๆ ทุกรายละเอียดของร้านถูกกลั่นกรองและนำมาวางไว้อย่างสมดุล รวมไปถึงกาแฟ cm กลิ่นเบอรี่ตัวนี้ ที่ชงออกมาจนกลิ่นหอมฟุ้งไปทั้งร้าน เรียกได้ว่าเป็นร้านสไตล์ maximal ที่หรูหราแหวกแนวไม่ซ้ำใครเลยจริงๆ ผมบิดมอเตอร์ไซค์แข่งกับเวลา ที่ดูเหมือนจะต้องมาให้ถึงสถานที่นี้ให้ทันก่อน 17:00 น วัดที่เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่ชาวต่างชาติเรียกกันว่า White temple หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อวัดร่องขุ่น วัดสีขาวบริสุทธิ์อันงดงาม ถูกร้อยเรียงเรื่องราวจากแดนนรกสู่สรวงสวรรค์ ที่คงจะสะกดสายตาของผู้พบเห็นครั้งแรก ไม่ต้องหยุดนิ่งไปกับพุทธศิลป์ระดับเวิลด์คลาส และคงเป็นสถานที่แรกที่ผู้คนต่างถวิลหามือมาเที่ยวยังจังหวัดเชียงราย ช่วงเวลาก่อนสิ้นสุดแสงสุดท้ายของวัน ฝากลมหนาวดูท้องฟ้ากับ Landmark ของสิงห์ปาร์ค ที่เป็นจุดสิ้นสุดทริปทัวร์จีนของเราในวันนี้ แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทางทั้งหมด ซึ่งบางทีความต้องการมันก็ไม่สัมพันธ์กับเวลา จะให้รอทุกอย่างพร้อมที่มีก็คงไม่เกิดขึ้น ดังนั้นถ้าเราตัดสินใจแล้วลงมือทำ จงอย่าเสียดาย แล้วไม่ต้องกังวลกับผลลัพธ์ ถ้ามันจะไม่เป็นอย่างที่ตั้งใจไว้ ถึงเวลาที่จะต้องออกจากตัวเมืองจังหวัดเชียงราย ขี่มอเตอร์ไซค์ขึ้นเหนือไปทางอำเภอแม่สาย แต่เลือกที่จะเลี้ยวซ้ายมายังอำเภอแม่ฟ้าหลวง ที่เป็นจุด check Point ถัดไปของเรา บนเส้นทาง 149 มุ่งหน้าไปยังดอยตุง อากาศเช้านี้เย็นสบาย เหมาะแก่การขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยว ที่พอไอเย็นกระทบกับผิวหน้า มันก็เป็นความรู้สึกที่ผมหลงใหล ของเสน่ห์ในการขี่มอเตอร์ไซค์ในภาคเหนือ อากาศเย็นวูบวาบในช่วงขึ้นเขา มันทำให้ผมเพลินจนไม่ได้โฟกัสกับเนวิเกเตอร์ ที่ผมเองน่าจะเลี้ยวมาผิดทางแล้ว ด้วยความลังเลที่กลัวว่าจะขี่รถเลยเถิดไปไกลๆ ไปวนรถกลับเพื่อมาถามทางจากพี่เจ้าหน้าที่เพื่อความชัวร์ สวนแม่ฟ้าหลวงมีขึ้นบนนี้ ข้างขวาเหรอทางเดิมเมื่อกี้ มาทางนี้ก็ไม่ได้ อ๋อ เห็นเมื่อกี้ Map มันให้ขึ้นทางนี้ สรุปว่าทางที่ผมเลี้ยวไปในตอนแรกถูกต้องอยู่แล้วด้วยความที่ยุคนี้เป็นยุคของเทคโนโลยีผมก็เลยต้องเชื่อ เชื่อนิวเกเตอร์ไว้ก่อน แต่พอลองขี่มาตามทางที่พี่เจ้าหน้าที่บอก เนวิเกเตอร์มันก็บอกว่าจุดหมายของผมมีอยู่ 5 เข้าไปอีกกว่า 20 กิโลเมตร ดูห่างไกลจาก 8 กิโลเมตรอย่างที่พี่เขาว่าไว้ แต่ผมก็ยังใจดีสู้เสือ ขี่รถตามความรู้สึก พี่คิดเอาว่าแผนที่มันคงยังไม่อัพเดทแค่นั้นมั้ง เนวิเกเตอร์ยังคงพาตัดไปยังเส้นทางที่ แต่เท่าที่ผมดู เหมือนมันจะยังไม่ใช่ทางที่ควรจะเป็นเท่าไหร่ จะมาพบกับทางแยก ที่ดูเหมือนน่าจะเป็นทางเข้าไปยังดอยตุง แต่พอเหลือบตาดูใน gatorz มันก็บอกให้ผมตรงไปซะอย่างนั้น ผมเลือกที่จะตัดสินใจตามความรู้สึกของตัวเองแล้วก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องทำให้เรามาถึงดอนจนได้ เราจอดรถไว้ด้านนอกแล้วเดินเข้าสู่ดอยตุงและดูเหมือนว่าในวันนี้จะมีงาน Event ใหญ่พอดี ซึ่งก็เป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของที่นี่ ที่พอลมหนาวเริ่มพัดผ่านเข้ามาในเดือนธันวาคม ก็จะทำให้เกิดฤดูแห่งสีสันสดใสบนดอยตุง ผมเคยได้ยินชื่อของดอยตุง ผ่านร้านกาแฟแฟรนไชส์ที่มีอยู่หลายสาขาในกรุงเทพฯ แต่ถ้าได้มาที่นี่ทั้งที ไม่ได้ลองกินกาแฟจากสาขาต้นตำรับ ก็คงเหมือนจะยังเดินทางมาไม่ถึง น้องๆมารอทำการแสดงชนเผ่าอยู่ที่หน้าต้นซุง ซึ่งหากมองย้อนกลับไปในวัยเด็ก ถ้าผมต้องมาทำการแสดงแบบนี้ ผมคงคิดว่าจะมีใครสนใจการแสดงของเราด้วยหรอ แต่พอเราอายุมากขึ้น กลับอยากดูการแสดงท้องถิ่นแบบนี้ ที่ไม่ว่าจะเป็นจากต่างภูมิภาค หรือว่าต่างประเทศ ผมเองก็อยากเสกวัฒนธรรมท้องถิ่นของแต่ละพื้นที่อยู่ร่ำไป หลายสิบปีก่อน ดอยตุงเคยเป็นพื้นที่ป่าแห้งแล้ง แต่พอได้มีการพัฒนาและดูแลอย่างถูกวิธี ก็แปรเปลี่ยนจากพื้นป่าสีน้ำตาลให้เป็นสวนดอกไม้ที่มีสีสันสดใสอย่างทุกวันนี้ ดอกไม้เมืองหนาวหลากสีสัน ทั้งดอกไม้พันธุ์ไทยและพันธุ์ต่างประเทศ ถูกๆหมุนเวียนตามฤดูกาลอยู่ตลอดทั้งปี ภายใต้ชื่อสวนดอกไม้แม่ฟ้าหลวง สวนดอกไม้ที่ถูกจัดระเบียบไว้อย่างนี้ ถูกวางสลับสูงต่ำอย่างที่มันควรจะเป็น เราก็บอกเราได้ไปเดินสวนสาธารณะสวยๆในแถบยุโรป ซึ่งผมเองก็แอบสงสารเอาฟิตของเฟิร์สในวันนี้ ที่มันอาจจะดูคอนเสิร์ตกับสถานที่แห่งนี้ เพราะว่าเราต้องเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์ แต่ก็ยังดี ที่มีรางวัลปลอบใจ ในภาพดอกไม้สีต่างๆ ไปทำการ์ดสวัสดีวันจันทร์ได้ทั้งสัปดาห์ เมื่อเดินชมทุกอย่างครบ แล้วเดินออกจากสวนดอกไม้ ก็มีตลาดของกินเล็กๆรออยู่เบื้องหน้า ที่เหมือนรู้ว่าเรากำลังออกมาด้วยความหิวโหย แล้วขี่รถมุ่งหน้าเข้าสู่พระธาตุดอยตุง ซึ่งมีเส้นทางทั้งแบบใกล้และแบบอ้อม แน่นอนว่าเราเลือกเส้นทางแบบใกล้ แต่ก็ต้องแลกมากับเส้นทางที่ค่อนข้างคดเคี้ยวและสูงชัน ซึ่งมันก็ไม่ได้ลำบากเกินไปนัก สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ของผม ที่พอมีกำลังไปขึ้นเขาไปได้อย่างง่ายดาย พระธาตุดอยตุงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดเชียงราย และในวันนี้ ผมเองก็ตั้งใจมายังพระธาตุแห่งนี้มากๆ แถววัดพระธาตุดอยตุง เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของปีกุน ซึ่งก็เป็นปีเกิดของเฟิร์สพอดี ที่พอมีโอกาสได้มาเชียงรายทั้งทีก็เลยได้พามากราบไหว้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล ไม่ต่างจากชาวพุทธคนอื่นๆ ที่ตั้งใจเดินทางมาจากแดนไกล เพื่อมากราบไหว้ ได้สัมผัสดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้สักครั้ง ผมเองเป็นคนหนึ่งที่ชอบปฏิเสธการเข้าวัดตั้งแต่เด็ก แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม ทุกการเดินทางจะต้องมีวัดเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ต้องอยู่ใน checklist อยู่เสมอ ดีแท้จริงแล้วมีบางอย่างคอยเหนี่ยวนำให้ผมต้องโคจรเข้าหาวัด แต่บางทีบางคำถามในชีวิต มันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีคำตอบ เพียงแค่เราใช้หัวใจชี้นำความรู้สึก มันก็อาจจะเป็นคำตอบที่ถูกต้อง ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน หลังจากที่เราได้สักการะพระธาตุดอยตุงเรียบร้อยแล้ว ผมก็ขี่มอเตอร์ไซค์อยู่บนสันเขา คู่ขนานไปกับเส้นแบ่งเขตแดนที่เป็นรอยต่อระหว่างประเทศไทยและพม่า ผ่านเส้นทางที่มีผิวถนนขรุขระ ละครภูเขาสูงชัน ที่ทำให้เราไม่สามารถทำความเร็วได้มากนัก และยิ่งเป็นชายแดนแบบนี้ก็จะมีด่านอาหารคอยตรวจตราอยู่เป็นระยะระยะ บ้านผาฮีจะเป็นสถานีต่อไปของเรา ที่หัดเดินทางมาจากพระธาตุดอยตุง ก็จะอยู่ห่างกันไม่ถึง 8 กิโลเมตร แต่จะต้องใช้เวลาเกือบ 20 นาที ในการฝ่าฟันโค้งหักศอกทั้งหลาย ที่คอยต้อนรับผู้มาเยือน ขี่รถมาถึงป้ายหมู่บ้านผาฮี้ก็จอดรถแวะชมจุดชมวิวที่เป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้าน ภาพเมืองที่มองเห็นผ่านช่องเขา ที่คอยอบรมชุมชนแห่งนี้เอาไว้ เป็นภาพที่ได้เห็นวิวนี้ ก็รู้ได้ทันทีว่าจุดนี้คือผาฮี้จังหวัดเชียงราย คืนนี้เราจะพักกันที่โฮมสเตย์ในหมู่บ้านที่มีชื่อว่ารอดูผาฮี้โฮมสเตย์ ที่มองเห็นวิวของผาฮี้แบบพาโนรามา โดยแค่เพียงเปิดประตูห้องออกมาเท่านั้น เก็บของเข้าที่พักเสร็จก็ออกมาเดินสำรวจหมู่บ้าน ชุมชนแห่งนี้เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่า ที่มีพิธีกรรมและความเชื่อที่แตกต่างไปจากผู้คนในปัจจุบัน จุดที่เริ่มต้นเดินก็จะเป็นจุดสิ้นสุดทางรถ คือหยุดหรอชิงช้า เป็นสถานที่สำคัญจุดหนึ่งของหมู่บ้าน ชิงช้าสวรรค์แบบ Manual ที่คงจะเป็นเหมือนสนามเด็กเล่นของเด็กๆในชุมชน แล้วเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมของชาวอาข่า แอบดูสูง และอันตรายอยู่พอสมควร ผาฮี้เป็นแหล่งปลูกกาแฟที่ขึ้นชื่อในจังหวัดเชียงราย โดยสามารถสังเกตเห็นได้จากบ้านเรือนต่างๆ ที่จะมีเมล็ดกาแฟกันอยู่ตามบ้านเรือนเกือบทุกหลัง รวมไปถึงร้านกาแฟ พี่ก็มีตัวเลือกให้เลือกอยู่หลายล้าน ที่พร้อมเสิร์ฟกาแฟคู่กับการเสิร์ฟบิลดื่มด่ำไปกับบรรยากาศบนยอดดอยบ้านผาฮี้ ถ้าพูดถึงอำเภอแม่สาย ผมก็คงนึกถึงด่านพรมแดนระหว่างไทยและพม่าที่เป็นแหล่งขายสินค้ากันอย่างคึกคัก ซึ่งผมเองไม่ค่อยคุณสักเท่าไหร่ บ่มีที่เที่ยวโฮมสเตย์ให้สัมผัสกับบรรยากาศบนยอดดอย จะได้เรียนรู้วัฒนธรรมของชาวอาข่า ที่อยู่ในอำเภอแม่สายแบบนี้ แล้วเดินเข้าออกร้านค้าก็อยู่หลายร้านจนฟ้าเริ่มจะมืด อากาศเย็นเริ่มเข้ามาปกคลุมพื้นที่ภายในหุบเขา ทำให้เราต้องเดินกลับเข้าที่พัก และในวันนี้ คงจะเป็นมื้อแรกในชีวิตที่ผมจะได้กินอาหารชนเผ่า ที่พี่เจ้าของที่พัก คงกำลังจัดเตรียมมื้อเย็นไว้ให้กับพวกเรา เสียงไก่ขันดังระงม ไปทั่วทั้งหมู่บ้าน ที่เป็นเหมือนนาฬิกาปลุกจากธรรมชาติทำให้ผมต้องลุกขึ้นจากเตียงและได้ออกมาเห็นความธรรมดาของทำไม ที่สามารถเปลี่ยนสภาพร่างกายของคนที่มองเห็น ให้สดชื่นพร้อมรับวันใหม่ ดวงอาทิตย์กำลังค่อยๆลอยขึ้นเหนือสันเขา เมฆหมอกยังคงลอยต่ำกว่าระดับความสูงของที่พัก ที่มันกำลังบดบังวิวเมืองที่เคยมองเห็นได้ผ่านช่องเขา หลายครั้งที่การออกไปในที่แปลกใหม่ มันจะได้พบเจอกับสิ่งที่เราไม่เคยรู้จัก มันเกิดเป็นความสงสัย ว่าทำไมต้องมีสิ่งที่คล้ายกับเครื่องรางแขวนอยู่บนตัวของหลายๆบ้าน ซึ่งพอได้พูดคุยกับพี่เจ้าของที่พัก และเขาเองก็ไม่รู้สักคำตอบ จึงทำให้ผมต้องปล่อยผ่านไป แล้วมานั่งกินข้าวเช้าอยู่ที่หน้าห้องพัก และนี่ก็เป็นอีก 1 มื้อ ที่จะได้กินข้าวเช้า ท่ามกลางสายหมอกที่กำลังปกคลุมมายังหมู่บ้านผาฮี้ หลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ผมเริ่มออกเดินทางท่องเที่ยว ผมก็ยิ่งหลงเสน่ห์ของการเที่ยววิถีชุมชน ได้นอนโฮมสเตย์และได้ใกล้ชิดกับผู้คนในท้องถิ่น ที่ทำให้เราได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ เครื่องดีมากกว่าการได้ชมวิวสวยๆและจบไป หรืออาจจะเป็นเพราะเราเริ่มตกผลึกทางความคิด ว่าการเที่ยวที่สนุก อาจจะไม่ต้องหรูที่สุดก็ได้ เราออกเดินทางจากผาฮี้ขี่รถมุ่งหน้าไปยังบ้านผามีที่อยู่ไม่ไกลกัน แล้วผมเองก็เริ่มจะคุ้นชินกับผมรูปตัวเอส ที่มีมากมายอยู่บนดอยแห่งนี้ ขี่รถได้ไม่นานก็มาถึงร้านคุมะ ร้านกาแฟที่ตั้งอยู่บนจุดท็อปของหมู่บ้าน ที่สามารถมองเห็นวิวของผาหมีได้ทั้งดอย ภูเขาที่มีลักษณะเหมือนหมีนอนหงายอยู่ เป็นต้นกำเนิดของชื่อผาหมี ที่ทำไม่ได้พี่เจ้าของร้านบอก ผมเองก็คงมองไม่เห็น กินกาแฟและของว่างอยู่ที่ร้านก็ได้พูดคุยกับคนที่อยู่ในพื้นที่ ที่ชี้ให้เห็นกับภูเขาที่อยู่อีกด้านหนึ่ง ที่เคยมีข่าวดังไกลไปทั่วโลก จากเหตุการณ์นักฟุตบอลทีมหมูป่าอะคาเดมี่ 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำจนต้องระดมผู้คนจากทั่วโลก เพื่อมาทำภารกิจช่วยชีวิตในครั้งนั้น แล้วเมื่อเราอยู่ใกล้ขนาดนี้แล้ว ผมเองก็คิดว่าคงจะต้องไปสัมผัสอุทยานแห่งประวัติศาสตร์ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์กระฉ่อนโลกที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน เด็กท้องถิ่นที่เที่ยวเล่นในถ้ำหลวงเสมือนสวนหลังบ้าน ดูพายุฝนที่โหมกระหน่ำ นำพาน้ำให้ไหลมาปิดปากถ้ำอย่างรวดเร็ว ทำให้ทั้ง 13 คนติดอยู่ภายในถ้ำ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่ถูกใช้ในการทำภารกิจ ถูกนำมาวางไว้ให้กับนักท่องเที่ยวได้รำลึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำที่กว้างใหญ่ แล้วมีระยะทางยาวถึง 10 กิโลเมตร มันช่างเป็นโรคใต้ความมืด ที่ทำให้ผมเองก็รู้สึกอึดอัดอยู่ไม่น้อย สถานที่สวยงามในช่วงหน้าแล้ง แต่เมื่อน้ำล่ะ ถ้ำหลวงก็จะกลายเป็นสถานที่อันตรายแบบสุดขั้ว ซึ่งจากที่ผมเดินเข้ามาภายในถ้ำเพียงไม่กี่ร้อยเมตร มันก็ทำให้ผมได้สัมผัสถึงความน่าพิศวงของถ้ำแห่งนี้ การทำให้ต้องถอยหลังกลับไป ถึงแม้เด็กทั้ง 13 คนจะออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่ก็ต้องมีหนึ่งชีวิตที่ต้องจากไป การช่วยเหลือในครั้งนั้น และชื่อของจ่าแซมจะถูกจารึกเป็นวีรบุรุษเคียงคู่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนแบบนี้ ไปตราบนานเท่านาน หลังจากพักกินข้าวเที่ยงในอำเภอแม่สาย เราก็ขี่รถมายังฝั่งตะวันออกของจังหวัดเชียงราย เพื่อมุ่งหน้าไปยังอำเภอเชียงแสนเมืองล้านนาเก่าแก่ริมแม่น้ำโขง อดีตเมืองศูนย์กลางการปกครองแห่งล้านนา ที่ยังหลงเหลือซากอารยธรรมโบราณให้คนรุ่นหลังได้เข้ามาศึกษา แล้วขี่รถไปยังวัดเจดีย์หลวงเป็นวัดที่มีเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอเชียงแสน ตามตำนานได้กล่าวไว้ว่าพญาแสนภูกษัตริย์ลำดับที่ 3 ในราชวงศ์มังรายทรงสร้างวัดนี้ขึ้น ขึ้นตั้งแต่ปีพศ 1887 ถ้าได้เหรียญจากตอนนั้นจนถึงตอนนี้ ก็มีอายุเกือบ 700 ปีมาแล้ว ผมเองที่ไม่ค่อยได้ศึกษาประวัติศาสตร์โบราณมากนะ จึงทำให้ไม่ค่อยคุ้นเคยกับอาณาจักรล้านนาสักเท่าไหร่ สินค้าเทียบกับเมืองอยุธยา เราคงจะคุ้นเคยกับประวัติศาสตร์ในช่วงนั้นซะมากกว่า รายการที่ได้มาเชียงแสนแบบนี้ มันก็ทำให้ผมได้เปิดโลกทัศน์ของเมืองโบราณแห่งหนึ่งในภาคเหนือ ที่มันมีคุณค่าทางวัฒนธรรมมาจนถึงปัจจุบัน สามเหลี่ยมทองคำ พรมแดนระหว่างประเทศไทย ลาวและพม่า จุดที่มีแม่น้ำรวกและแม่น้ำโขงไหลมาบรรจบกัน ในทางภูมิศาสตร์ แม่น้ำโขงที่ไหลผ่านประเทศไทยที่อำเภอเชียงแสนจุดนี้เป็นจุดแรก แล้วตัดผ่านดินแดนของประเทศลาวซึ่งพบแม่น้ำโขงเลขครั้งที่อำเภอเชียงคานจังหวัดเลย และยาวไปจนถึงจุดสิ้นสุดที่อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งผมเองก็มีโอกาสได้ไปครบทั้ง 3 ที่แล้ว บริเวณท่าเรือสามเหลี่ยมทองคำในอดีตเป็นช่องทางค้าฝิ่นที่ใหญ่ติดอันดับโลก ซึ่งแต่ก่อนมีการใช้ทองคำในการแลกเปลี่ยนปิ่น ที่ต้องใช้น้ำหนักในปริมาณที่เท่ากันในการแรก จึงเป็นที่มาของชื่อสามเหลี่ยมทองคำอย่างทุกวันนี้ ทางด้านฝั่งพม่า เป็นดินแดนว่างเปล่าที่ไม่ค่อยมีผู้คนอาศัยอยู่ ส่วนฝั่งลาว ก็จะดูคึกคักและมั่งคั่ง มีคาสิโนและตึกหมูตั้งอยู่อย่างทันสมัย ดูเจริญไปมากกว่าเราในความคิดของผม สิ่งที่นี่ก็ถูกขนานนามว่าเป็นมาเก๊าแห่งลุ่มน้ำโขง ส่วนในฝั่งของไทยก็คงจะเป็นจุดชมวิวสามเหลี่ยมทองคำที่ดีที่สุด ที่ยังคงอนุรักษ์ความเป็นศิลปะแบบไทยแท้ๆ ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาชาวต่างชาติ พระเชียงแสนสี่แผ่นดิน ที่ประดิษฐานอยู่บนสิ่งปลูกสร้างคล้ายเรือมังกร คนบริวารทั้งหลายหันหน้าตามกระแสน้ำไปทางทิศตะวันออก เปรียบเสมือนความมั่งคั่งแห่งลุ่มน้ำโขง ที่คอยค้ำจุนเมืองเชียงแสนให้เจริญรุ่งเรือง บรรยากาศยามค่ำคืนริมแม่น้ำโขงเชียงแสนมีร้านอาหารนั่งพื้นเรียงรายให้เลือกอยู่หลายร้าน ผมก็เลยเลือกเข้าร้านที่คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ สั่งอาหารโดยไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่ผมอยากบอกว่าทุกอย่างที่ผมสั่งมา มันอร่อยจนอยากให้ร้านนี้มันอยู่ใกล้ๆบ้านผมซะจริงๆ ออกเดินทางอีกครั้งในเช้าวันใหม่ ร้านข้าวหน้าโรงแรมถามผมว่า ไปเที่ยวสกายวอล์คมาหรือยัง มันก็กระตุ้นให้ผมรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันทีที่ได้รู้ว่าเชียงแสนมีสกายวอล์คแห่งใหม่ที่เพิ่งสร้างได้ไม่นาน ทำให้เราขี่รถมายังวัดพระธาตุผาเงา ซึ่งเป็นวัดที่เราตั้งใจมาอยู่แล้ว สำหรับการเดินทางมาเที่ยวในเชียงแสน ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองเก่าแก่แห่งล้านนา ทำให้เชียงแสนมีจุดเด่นเป็นวัดโบราณต่างๆ แล้ววัดพระธาตุผาเงาก็ดูจะเป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของอำเภอนี้ เรื่องเล่าของพระธาตุและพระพุทธรูปโบราณในอดีตที่ถูกขุดพบถูกเล่าต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่ยังหลงเหลือไว้ให้กับผู้คนในยุคปัจจุบันได้พบเห็น ผสมกับการแต่งเติมศิลปะและความทันสมัยของยุคปัจจุบัน เพื่อให้คงอยู่สืบเนื่องต่อไป ผมเองเวลาเข้าวัด ก็ไม่ค่อยได้ขอพรอะไรพิเศษ แต่อาจจะขอพรแบบครอบจักรวาลแทนอย่างเช่นขอให้สมหวังทุกประการ แต่ชาวบ้านที่นี่มีความเชื่อว่าถ้าหากมาขอพรกับพระธาตุผาเงาจะช่วยให้หายป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งบางทีร่างกายที่ถดถอย อาจจะต้องการกำลังใจจากที่ไหนสักแห่ง ที่คอยนำพาให้มนุษย์ ยังคงยืนหยัดอยู่บนโลกนี้ต่อไปได้ นั่งรถสองแถวขึ้นมายังจุดชมวิวมีเจดีย์สีขาวโดดเด่น ที่สร้างคร่อมพระธาตุอายุพันปีที่ตั้งอยู่บนยอดเขาเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาผู้พบเห็น เดินถัดมาอีกไม่ไกลนะ เราก็จะพบกับ สกายวอล์คผาเงา จุดชมวิวแม่น้ำโขงสามแผ่นดิน ที่ให้ความรู้สึกคล้ายกับสกายวอล์คของวัดผาตากเสื้อ ที่เป็นต้นฉบับของสกายวอล์คในประเทศไทยอยู่เหมือนกัน ผมเริ่มจะคุ้นชินกับการเดินบนสะพานกระจกที่เริ่มมีอยู่หลายแห่งในประเทศไทย แตกต่างกันที่บิลที่ถูกถ่ายทอดอยู่เบื้องหน้าและตามสถานการณ์ ไปกับคนที่ร่วมบันทึกความทรงจำเอาไว้ ในบันทึกหน้าใหม่ การเดินทางไปยังสถานที่ใดสักแห่ง ที่ไม่ว่าเป็นสถานที่ยอดฮิต หรือว่าเป็นสถานที่ที่ห่างไกลจากผู้คน มันต่างมีเหตุผลในช่วงเวลาของชีวิต ที่ทำให้ต้องมาเยือนโดยไม่ต้องถามหาเหตุผล ซึ่งบางทีคนเรา ก็มีความคิดที่ซับซ้อนเกินไป จะหลงลืมไปว่าความสุข มันอยู่ใกล้แค่ความคิดของตัวเราเอง ไม่ต้องนำกฎเกณฑ์ของคนอื่น มาเป็นมาตรฐานที่เราจะต้องไปให้ถึง เพียงแค่สร้างความซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเอง แล้วทำตามสิ่งที่ใจของเราเรียกร้องหามัน ผมขี่รถออกจากอำเภอเชียงแสน ถนนทางหลวง 6 เลนที่กว้างโล่ง สามารถขี่ได้แบบดุดันไม่เกรงใจใคร ระยะทาง 140 กิโลเมตร เพื่อไปยังเป้าหมายต่อไป กับยอดดอยดินแดนแห่งกาแฟที่กำลังมาแรงดอยช้าง สภาพอากาศตอนกลางวันในภาคเหนือ ช่างแตกต่างกับอุณหภูมิในช่วงค่ำ แสงแดดเริ่มแพคเผาผิวหนังให้คล้ำขึ้น จากการที่ต้องขี่มอเตอร์ไซค์เดินทางอยู่หลายวัน ถึงแม้ว่าอากาศจะร้อนแต่ก็ยังดีกว่าถ้าจะต้องขี่มอเตอร์ไซค์ท่ามกลางสายฝนเป็นแน่ แล้วเมื่อเราเห็นเส้นทางที่เริ่มมีความถี่มากขึ้นก็เป็นสัญญาณที่บอกว่าเรากำลังเข้าสู่อำเภอแม่สรวย ผมเรียบดู GPS ในขณะที่กำลังเลี้ยวเข้าสู่เส้นทางหมู่บ้านดอยช้าง ก็พบกับจุดชมวิวเขื่อนแม่สรวยที่อยู่ในทางผ่าน ซึ่งผมเองก็ไม่อยากพลาดกับความพิเศษของบรรยากาศสองข้างทาง ที่มันอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่คอยเติมเต็มภาพของปลายทางให้สมบูรณ์ ระยะทางอีกไม่กี่กิโลเมตร กับเส้นทางที่โค้งและสูงชัน ทำให้ใช้เวลาอยู่หลายนาที กว่าจะมาถึงที่หมายแรกบนดอยช้าง ช่วงเวลาที่ผมรอคอยที่จะได้ดื่มด่ำไปกับกาแฟของร้านต่างๆ ที่ส่วนมากจะมีโรงคั่วกาแฟเป็นของตัวเอง แล้วมีวิวที่สวยแทบทุกร้าน ทำให้คนที่หลงรักกาแฟอย่างผมรู้สึกตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ ฝากท้องยามบ่ายที่ร้านอมรโซพาราไดซ์ เราเลือกกินอาหารจานเดียวง่ายๆ เครื่องเมนูอาหารและเครื่องดื่มถือว่าไม่แพงนะ ถ้าเทียบกับบิลของร้านนี้ที่แสนจะวิเศษ ทำให้ความเมื่อยล้าจากการเดินทาง 2 ชั่วโมงครึ่ง ถูกลบเลือนไปด้วยภาพที่อยู่ตรงหน้าห้องผมนะตอนนี้ กาแฟแก้วแรกยังไม่ทันออกฤทธิ์ ก็มาต่อร้านกาแฟอีกร้านทันที คือมันคงเป็นเรื่องปกติของการดอยช้าง ที่ทำให้เราจะต้องกินกาแฟวันละหลายแก้ว ยาโยอิ aoffy เป็นอีกร้านที่มีมุมกว้างแบบ panorama ที่จะเห็นอีกด้านของดอยช้างในฝั่งทิศตะวันตก ผมละสายตาจาก Vivo ไว้ก่อน รหัสมาโฟกัสกับกาแฟและขนม ที่อร่อยจนต้องสั่งเพิ่ม ผมไม่รู้ว่าร้านไหนจะเป็นร้านที่ดีที่สุด แต่สำหรับพวกเรา ร้านนี้คงจะเป็นร้านที่เราชอบมากที่สุด สังเกตจากแววตาของเฟิร์สที่จะเป็นประกายเมื่อได้เจอของอร่อย แถมยังห่วงณัชชาที่ถูกใจเธอแก้วนั้น ที่ยังไม่ยอมให้ผมทีมิกซ์ด้วย อากาศหนาวเริ่มพัดผ่านเข้ามา ในช่วงที่แสงอาทิตย์กำลังค่อยๆจางลง ผมเข้าเช็คอินที่พักที่มีรูปทรงเท่ๆ ที่มีชื่อว่าจะแด House เป็นที่พักที่มีร้านกาแฟอยู่ในที่เดียวกัน ทำให้ชื่อห้องพักต่างๆ ถูกตั้งชื่อตามเมนูของกาแฟ ซึ่งก็แอบทำให้ผมลืมชื่อในตอนที่ต้องแจ้งเลขที่ห้องกับพนักงานต้อนรับ รุ่งเช้ากับอากาศที่หนาวเย็น ที่เราอาจจะไม่ได้เห็นทะเลหมอกเสมอไป แต่ท้องฟ้าและภูเขาก็ยังคงออกมารอต้อนรับผู้มาเยือนอยู่อย่างนี้เหมือนในทุกๆวัน ความสดชื่นที่ได้นั่งดูวิว สูดกลิ่นไอจากธรรมชาติ ไม่มีสูตรตายตัวสำหรับคนที่ได้พบเห็น มีแต่เพียงภาพบรรยากาศ ที่จะเก็บลงในกล่องความทรงจำเผื่อว่าวันหนึ่งได้เปิดออก ได้ยิ้มให้กับความรู้สึกของวันนี้ ในอีกหลายปีข้างหน้า แล้วมันคงไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกนี้ ดีกว่าคนที่เก็บบันทึกเรื่องราวเรื่องนั้นด้วยตัวของเราเอง เตรียมตัวเก็บของออกจากที่พัก แล้วก็ได้เวลาที่ผมจะต้องออกเดินทางอีกครั้ง ไม่ตามหาฝูงแกะดอยช้าง จุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่อยากมาเล่นกับฝูงแกะบนเนินเขา และนั่นก็เป็นแรงจูงใจมากพอ ที่ทำให้ First เรียกร้องมาที่แห่งนี้ อากาศฟาร์มวิวที่จะต้องเสียค่าเข้าคนละ 100 บาท แต่ก็สามารถนำไปแลกเครื่องดื่มด้านในได้ แล้วเจ้าแก่พวกนี้ ก็ช่างรู้งานมาบริการนักท่องเที่ยวกันถึงโต๊ะเลยทีเดียว ดูเหมือนว่าฝูงแกะแต่ยังหิวอยู่ในเช้านี้หลายๆตัวต่างพุ่งเข้าหาผู้คนที่มีอาหาร ความน่ารักของเจ้าขนปุยตัวโต ที่วิ่งไปมาอย่างมีความสุขอยู่บนสันเขา ทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง กับความสุขอันแสนเรียบง่ายบนผืนหญ้า ที่เจ็บสุดก็แค่หกล้ม ไม่ต้องแบกภาระอันใหญ่โตเอาไว้บนบ่า แต่ในเมื่อวุฒิภาวะ บีบบังคับให้นำมาซึ่งความรับผิดชอบ ก็เลยต้องอยู่ในกรอบของความเป็นผู้ใหญ่ การออกเดินทางก็เป็นเหมือนภาคปฏิบัติของวิชาสอบบัญชี ที่ถ้าเราปล่อยให้กรอบของความเป็นผู้ใหญ่ บดบังทิศทางความสุขของชีวิต เราคงไม่กล้าเดินออกจากกลุ่มนั้นมา เพื่อตามหาสิ่งที่มีความหมายให้กับตัวเอง